สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ : บทศึกษาเฉพาะกรณีภาวะผู้นำทางการบริหาร
Publisher
Issued Date
1966
Issued Date (B.E.)
2509
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
178 หน้า.
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ชัชสรี บุนนาค (1966). สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ : บทศึกษาเฉพาะกรณีภาวะผู้นำทางการบริหาร. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1182.
Title
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ : บทศึกษาเฉพาะกรณีภาวะผู้นำทางการบริหาร
Alternative Title(s)
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้มุ่งศึกษาบทบาททางการบริหารของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เพื่อพิสูจน์ว่าท่านเป็นผู้นำทางการบริหารที่มีความสามารถและสร้างรากฐานความเจริญให้แก่ประเทศไทย ผู้เขียนวิเคราะห์โดยยึดภาวะผู้นำแบบประชานิยมเป็นหลัก และเนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เป็นผู้นำในระดับชาติ ผู้เขียนจึงศึกษาภาวะผู้นำของท่านในฐานะเป็นพฤติกรรมทางการบริหารของไทยโดยทั่วไปด้วย โดยได้ตั้งสมมติฐานไว้ 3 ประการ คือ.-
1. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ประสบผลสำเร็จทางการบริหาร เพราะมีภาวะผู้นำทางการบริหารเหนือกว่าบุคคลอื่นในเวลาเดียวกัน
2. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์มีบทบาททางการบริหารในการสร้างเสริมความเจริญให้แก่ประเทศ
3. ภาวะผู้นำของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ แสดงให้เห็นแนวโน้มของภาวะผู้นำทางการบริหารของนักบริหารไทยในปัจจุบัน อันมีผลจากสภาพแวดล้อมทางการเมืองและสังคม การวิจัยมุ่งเฉพาะบทบาทในการดำรงตำแหน่งสมุหกลาโหมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และการดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นระยะเวลาที่ท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และมีบทบาททางการบริหารอย่างเต็มที่
จากการศึกษาประวัติของสมเด็จเจ้าพระยาฯ ปรากฏว่าท่านได้รับความรู้ ความชำนาญในการบริหารจากบิดาซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญถึงสองตำแหน่ง คือเป็นเจ้าพระยาพระคลัง และสมุหพระกลาโหม จึงได้เปรียบบุคคลอื่น ท่านได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลายประการ เป็นต้นว่าริเริ่มดำเนินการรับอารยธรรมตะวันตก ริเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับการค้าโดยเสรี และส่งเสริมความเจริญด้านวัตถุทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้เขียนได้สรุปไว้ท้ายวิทยานิพนธ์ว่า ภาวะผู้นำของสมเด็จพระยาฯ มีลักษณะเป็นอัตนิยม ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในการบริหารของท่าน เพราะผู้นำควรพยายามใช้อำนาจแบบประชานิยมให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็ยังยอมรับว่าภาวะผู้นำแบบอัตนิยมใช่จะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว แต่ควรเลือกใช้ในบางโอกาสและบางสถานการณ์เท่านั้น
1. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ประสบผลสำเร็จทางการบริหาร เพราะมีภาวะผู้นำทางการบริหารเหนือกว่าบุคคลอื่นในเวลาเดียวกัน
2. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์มีบทบาททางการบริหารในการสร้างเสริมความเจริญให้แก่ประเทศ
3. ภาวะผู้นำของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ แสดงให้เห็นแนวโน้มของภาวะผู้นำทางการบริหารของนักบริหารไทยในปัจจุบัน อันมีผลจากสภาพแวดล้อมทางการเมืองและสังคม การวิจัยมุ่งเฉพาะบทบาทในการดำรงตำแหน่งสมุหกลาโหมในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และการดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นระยะเวลาที่ท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และมีบทบาททางการบริหารอย่างเต็มที่
จากการศึกษาประวัติของสมเด็จเจ้าพระยาฯ ปรากฏว่าท่านได้รับความรู้ ความชำนาญในการบริหารจากบิดาซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญถึงสองตำแหน่ง คือเป็นเจ้าพระยาพระคลัง และสมุหพระกลาโหม จึงได้เปรียบบุคคลอื่น ท่านได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลายประการ เป็นต้นว่าริเริ่มดำเนินการรับอารยธรรมตะวันตก ริเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับการค้าโดยเสรี และส่งเสริมความเจริญด้านวัตถุทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้เขียนได้สรุปไว้ท้ายวิทยานิพนธ์ว่า ภาวะผู้นำของสมเด็จพระยาฯ มีลักษณะเป็นอัตนิยม ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในการบริหารของท่าน เพราะผู้นำควรพยายามใช้อำนาจแบบประชานิยมให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็ยังยอมรับว่าภาวะผู้นำแบบอัตนิยมใช่จะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว แต่ควรเลือกใช้ในบางโอกาสและบางสถานการณ์เท่านั้น
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2509.