ความสำคัญของภาษีอากรฝ่ายสรรพากรกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
Publisher
Issued Date
1966
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
128 หน้า.
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
บุญรอด โบว์เสรีวงศ์ (1966). ความสำคัญของภาษีอากรฝ่ายสรรพากรกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1118.
Title
ความสำคัญของภาษีอากรฝ่ายสรรพากรกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
Alternative Title(s)
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ความมุ่งหมายของวิทยานิพนธ์เพื่อที่จะทราบถึงบทบาทของภาษีอากรฝ่ายสรรพากรต่อการส่งเสริมการลงทุนของเอกชนและเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญและแน่นอนเพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาเศรษฐกิจว่ามีอยู่อย่างไรหรือไม่เพียงใด และมีข้อบกพร่องอันควรปรับปรุงแก้ไขเพียงใด ผู้เขียนได้กำหนดขอบเขตศึกษาเฉพาะภาษีสำคัญ ๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีการค้าของปีงบประมาณ 2508 มิได้รวมภาษีสรรพากรอื่น ในการศึกษาวิเคราะห์ ผู้เขียนได้พิจารณาทั้งในด้านตัวบทกฎหมายและผลของกฎหมายนั้น ๆ ประกอบกับการศึกษาถึงพฤติกรรมไปในคราวเดียวกัน
จากผลการศึกษาปรากฏว่า นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยอาศัยระบบภาษีอากร ฝ่ายสรรพากรและพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนของรัฐได้ผล เพราะหลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติแล้วได้มีการขอรับการส่งเสริมเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นผลให้คนไทยมีงานทำหลายหมื่นคน อันนับว่าเป็นการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และจากการศึกษางบประมาณแผ่นดิน งบภาษีอากร งบพัฒนาเศรษฐกิจ งบภาษีอากรฝ่ายสรรพากร ฯลฯ แสดงว่าภาษีสรรพากรเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญและแน่นอนเพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีก็ยังปรากฏว่าภาษีอากร ฝ่ายสรรพากรยังมีอุปสรรคอีกหลายประการซึ่งผู้เขียนก็ได้พิจารณาโดยละเอียดและได้เสนอแนะข้อแก้ไขไว้ดังต่อไปนี้ คือ .-
1. กฎหมายและระเบียบปฏิบัติภาษีอากร ควรจะได้ยกร่างขึ้นใหม่ให้รัดกุมขึ้น
2. ปัญหาการปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีควรจัดเก็บให้ทั่วถึง อุดช่องโหว่ไม่ให้มีการหลีกเลี่ยงภาษี โดยให้การศึกษาประชาชนสูงขึ้น ปรับปรุงสมรรถภาพในการตรวจสอบภาษี หาวิธีควบคุมผู้เสียภาษี ฯลฯ และในด้านการบัญชีควรมีการวางระเบียบกฎหมายสำหรับ รูป แบบ และวิธีการบัญชีให้เหมาะสมแก่สภาพของกิจการแต่ละประเภท ควรส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบในประเทศให้มากขึ้น ใช้แรงงานคนไทยมากขึ้น
3. ปัญหาการวางระบบภาษีอากร ควรต้องมีการวิเคราะห์วิจัยสถิติข้อมูล เพื่อให้ทราบผลของภาษีอากร ตลอดจนภาระในการเสียภาษีอากร.
4. ปัญหาการบริหารงานจัดเก็บภาษีอากร ปัญหาที่เกี่ยวพันกัน ปัญหาการบริหารงานบุคคล ซึ่งควรจะได้มีการสอนหรืออบรมผู้เข้ารับราชการเกี่ยวกับหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเสียก่อน และปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่วนราชการ ซึ่งควรจะได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ให้มีการมอบหมายอำนาจและหน้าที่อย่างสมดุลย์และจะต้องกำหนดไว้ให้ชัดแจ้ง และให้แบ่งเบาอำนาจควบคุมบังคับบัญชาให้หน่วยงานทุกระดับในหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม
5. ปัญหาความรู้สึกรับผิดชอบในการเสียภาษีของประชาชน ควรได้ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจหน้าที่ในการเสียภาษี ให้เกลียดชังผู้หลีกเลี่ยงภาษี โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทราบถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้จ่ายของรัฐ และให้มีการตรวจสอบผู้หลีกเลี่ยงให้รัดกุมและสม่ำเสมอ
จากผลการศึกษาปรากฏว่า นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยอาศัยระบบภาษีอากร ฝ่ายสรรพากรและพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนของรัฐได้ผล เพราะหลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติแล้วได้มีการขอรับการส่งเสริมเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นผลให้คนไทยมีงานทำหลายหมื่นคน อันนับว่าเป็นการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และจากการศึกษางบประมาณแผ่นดิน งบภาษีอากร งบพัฒนาเศรษฐกิจ งบภาษีอากรฝ่ายสรรพากร ฯลฯ แสดงว่าภาษีสรรพากรเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญและแน่นอนเพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีก็ยังปรากฏว่าภาษีอากร ฝ่ายสรรพากรยังมีอุปสรรคอีกหลายประการซึ่งผู้เขียนก็ได้พิจารณาโดยละเอียดและได้เสนอแนะข้อแก้ไขไว้ดังต่อไปนี้ คือ .-
1. กฎหมายและระเบียบปฏิบัติภาษีอากร ควรจะได้ยกร่างขึ้นใหม่ให้รัดกุมขึ้น
2. ปัญหาการปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีควรจัดเก็บให้ทั่วถึง อุดช่องโหว่ไม่ให้มีการหลีกเลี่ยงภาษี โดยให้การศึกษาประชาชนสูงขึ้น ปรับปรุงสมรรถภาพในการตรวจสอบภาษี หาวิธีควบคุมผู้เสียภาษี ฯลฯ และในด้านการบัญชีควรมีการวางระเบียบกฎหมายสำหรับ รูป แบบ และวิธีการบัญชีให้เหมาะสมแก่สภาพของกิจการแต่ละประเภท ควรส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบในประเทศให้มากขึ้น ใช้แรงงานคนไทยมากขึ้น
3. ปัญหาการวางระบบภาษีอากร ควรต้องมีการวิเคราะห์วิจัยสถิติข้อมูล เพื่อให้ทราบผลของภาษีอากร ตลอดจนภาระในการเสียภาษีอากร.
4. ปัญหาการบริหารงานจัดเก็บภาษีอากร ปัญหาที่เกี่ยวพันกัน ปัญหาการบริหารงานบุคคล ซึ่งควรจะได้มีการสอนหรืออบรมผู้เข้ารับราชการเกี่ยวกับหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเสียก่อน และปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่วนราชการ ซึ่งควรจะได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ให้มีการมอบหมายอำนาจและหน้าที่อย่างสมดุลย์และจะต้องกำหนดไว้ให้ชัดแจ้ง และให้แบ่งเบาอำนาจควบคุมบังคับบัญชาให้หน่วยงานทุกระดับในหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม
5. ปัญหาความรู้สึกรับผิดชอบในการเสียภาษีของประชาชน ควรได้ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจหน้าที่ในการเสียภาษี ให้เกลียดชังผู้หลีกเลี่ยงภาษี โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทราบถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้จ่ายของรัฐ และให้มีการตรวจสอบผู้หลีกเลี่ยงให้รัดกุมและสม่ำเสมอ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2509.