ทัศนคติของนักเรียนเตรียมทหารในการเลือกเหล่าทัพ
Publisher
Issued Date
1968
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
206 หน้า.
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
เจือ จันทร์เพ็ญ (1968). ทัศนคติของนักเรียนเตรียมทหารในการเลือกเหล่าทัพ. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1132.
Title
ทัศนคติของนักเรียนเตรียมทหารในการเลือกเหล่าทัพ
Alternative Title(s)
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ปัญหาเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเข้าเหล่าทัพต่าง ๆ ณ โรงเรียนเตรียมทหารสืบเนื่องมาจากผลของการรวมโรงเรียนเตรียมในราชการกองทัพบก เรือ อากาศ และปัจจุบันรวมการศึกษาของนักเรียนเพื่อเตรียมเข้าศึกษาในชั้นสูงของทหารและตำรวจถึง 6 เหล่า อาชีพทั้ง 6 นี้ มีลักษณะของงาน วิถีทางในการดำเนินชีวิต เกียรติภูมิ สถานะในทางสังคม เศรษฐกิจ และอำนาจต่างกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อมีการคัดเลือกเข้าเหล่าทัพต่าง ๆ แล้ว มักมีการสับเปลี่ยนเหล่าระหว่างนักเรียนอยู่เสมอ การคัดเลือกก็ไม่อาจปฏิบัติไปตามหลักการความสามารถ และหลักการบรรจุอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะความต้องการของหน่วยงานมีจำกัด ไม่ได้ส่วนสัดกับจำนวนนักเรียนที่สมัคร ฉะนั้นผู้เขียนจึงมุ่งศึกษาว่าปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ทางราชการแก้ไขอย่างไรหรือไม่ มีมาตรการในการคัดเลือกเหล่าทัพไว้อย่างไร ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้โดยเคร่งครัดหรือไม่ และในการคัดเลือกเข้าเหล่าทัพนั้น ๆ ได้ฝืนความสมัครใจของนักเรียนมากน้อยเพียงใด และจะมีผลเกิดขึ้นในภายหลังอย่างไร.
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาตามหัวข้อดังกล่าวโดยละเอียดแล้วปรากฏว่า ภายใต้เงื่อนไขการเลือกเหล่าทัพในปัจจุบันทางราชการไม่มีทางแก้ไขปัญหาการขาดจำนวนผู้สมัครอันดับหนึ่งของกองทัพอากาศ และตำรวจน้ำได้ ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนมีทัศนคติเกี่ยวกับความนิยมชมชอบของเหล่าทัพต่าง ๆ อยู่ก่อนเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร อันเป็นทัศนคติที่บิดามารดามีอิทธิพลอยู่ด้วย อย่างไรก็ดีผู้เขียนได้เสนอแนะให้มีการปรับปรุงเกี่ยวกับความสมัครใจของนักเรียน กับความต้องการของเหล่าทัพซึ่งอาจเลือกปฏิบัติวิธีใดวิธีหนึ่งใน 2 วิธี คือ.-
1. ให้เลิกเงื่อนไขความสมัครใจโดยสิ้นเชิง คือ ให้แจกจ่ายนักเรียนแก่เหล่าทัพต่าง ๆ โดยยึดถือความเหมาะสมของทางราชการเป็นหลัก
2. ยังไม่เลิกเงื่อนไขความสมัครใจโดยสิ้นเชิง แต่ยังไม่ให้นักเรียนระบุความนิยมชมชอบในตอนรับสมัคร ปล่อยให้นักเรียนอยู่ร่วมกันระยะหนึ่ง แล้วจึงให้เลือกเหล่าทัพต่าง ๆ อาจให้มีการทดสอบความสามารถพิเศษของนักเรียนว่าเหมาะสมจะอยู่เหล่าทัพใด นอกจากนี้ผู้เขียนเสนอให้ปรับปรุงการศึกษาให้สมบูรณ์โดยกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในด้านการศึกษาอย่างชัดแจ้ง และเปิดเผยเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยละเอียด เพราะจะช่วยให้นักเรียนใช้วิจารณญานในการเลือกเหล่าทัพได้ถูกต้อง วิธีการรับสมัครและสิทธิพิเศษ ตลอดจนระบบการบริหารของโรงเรียนก็ควรจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขในด้านการเพิ่มคะแนนพิเศษ หลักเกณฑ์ที่ใช้เพิ่มคะแนนในด้านกิจกรรมนอกหลักสูตร และในด้านการส่งเสริมความสามัคคีของนักเรียน.
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาตามหัวข้อดังกล่าวโดยละเอียดแล้วปรากฏว่า ภายใต้เงื่อนไขการเลือกเหล่าทัพในปัจจุบันทางราชการไม่มีทางแก้ไขปัญหาการขาดจำนวนผู้สมัครอันดับหนึ่งของกองทัพอากาศ และตำรวจน้ำได้ ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนมีทัศนคติเกี่ยวกับความนิยมชมชอบของเหล่าทัพต่าง ๆ อยู่ก่อนเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร อันเป็นทัศนคติที่บิดามารดามีอิทธิพลอยู่ด้วย อย่างไรก็ดีผู้เขียนได้เสนอแนะให้มีการปรับปรุงเกี่ยวกับความสมัครใจของนักเรียน กับความต้องการของเหล่าทัพซึ่งอาจเลือกปฏิบัติวิธีใดวิธีหนึ่งใน 2 วิธี คือ.-
1. ให้เลิกเงื่อนไขความสมัครใจโดยสิ้นเชิง คือ ให้แจกจ่ายนักเรียนแก่เหล่าทัพต่าง ๆ โดยยึดถือความเหมาะสมของทางราชการเป็นหลัก
2. ยังไม่เลิกเงื่อนไขความสมัครใจโดยสิ้นเชิง แต่ยังไม่ให้นักเรียนระบุความนิยมชมชอบในตอนรับสมัคร ปล่อยให้นักเรียนอยู่ร่วมกันระยะหนึ่ง แล้วจึงให้เลือกเหล่าทัพต่าง ๆ อาจให้มีการทดสอบความสามารถพิเศษของนักเรียนว่าเหมาะสมจะอยู่เหล่าทัพใด นอกจากนี้ผู้เขียนเสนอให้ปรับปรุงการศึกษาให้สมบูรณ์โดยกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในด้านการศึกษาอย่างชัดแจ้ง และเปิดเผยเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยละเอียด เพราะจะช่วยให้นักเรียนใช้วิจารณญานในการเลือกเหล่าทัพได้ถูกต้อง วิธีการรับสมัครและสิทธิพิเศษ ตลอดจนระบบการบริหารของโรงเรียนก็ควรจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขในด้านการเพิ่มคะแนนพิเศษ หลักเกณฑ์ที่ใช้เพิ่มคะแนนในด้านกิจกรรมนอกหลักสูตร และในด้านการส่งเสริมความสามัคคีของนักเรียน.
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2511.