• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร
  • GSSDE: Theses
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร
  • GSSDE: Theses
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

การมีภาวะเป็นสถาบันของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

by ชาตรี วงศ์มาสา

Title:

การมีภาวะเป็นสถาบันของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

Other title(s):

Institutionalization of Sukhothai Thammathirat Open University

Author(s):

ชาตรี วงศ์มาสา

Advisor:

ฑิตยา สุวรรณะชฎ, 2474-, อาจารย์ที่ปรึกษา

Degree name:

พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต

Degree level:

ปริญญาโท

Degree discipline:

การวิเคราะห์ทางสังคม

Degree department:

คณะพัฒนาสังคม

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

1994

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การมีภาวะเป็นสถาบัน เป็นแนวความคิดทางสังคมวิทยาที่พยายามและอธิบายการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม โดยเห็นว่าสังคมจะเกิดความเป็นปึกแผ่นและอยู่รอดต่อไปได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มคนในสังคมได้ให้การยอมรับในระเบียบแบบแผนของสังคมหรือไม่ และมีการถือปฏิบัติตามในระเบียบแบบแผนของสังคมเพียงใด
ผู้วิจัยได้ถือแนวคิดนี้เป็นแนวความคิดหลักในการศึกษาองค์การปฏิบัติงาน โดยเลือกทำการศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เนื่องจากเป็นองค์การใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของโครงสร้างของงานและระเบียบแบบแผนในการทำงานอย่างรวดเร็ว อันน่าจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกนึกคิดของข้าราชการที่ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ ในการสร้างกรอบแนวคิดในการศึกษา "การมีภาวะเป็นสถาบันของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ผู้วิจัยได้สร้างกรอบแนวคิดโดยอาศัยตัวแปรความพอใจในงานเป็นตัวชี้วัดการมีภาวะเป็นสถาบัน กล่าวคือ หากบุคคลมีความพอใจในงานแล้วย่อมคาดการณ์ได้ว่า บุคคลจะยังคงรักษาความเป็นสมาชิกขององค์การและมีการปฏิบัติงานในองค์การต่อไป ซึ่งก็คือได้เกิดภาวะการเป็นกลุ่มอย่างเหนียวแน่นในองค์การ และภาวะการเป็นกลุ่มเช่นนี้ย่อมสะท้อนได้ว่าได้เกิดลักษณะการมีภาวะเป็นสถาบัน นั่นเอง.
ด้วยเหตุนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของการศึกษาวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นที่ (1) ศึกษาทัศนคติของข้าราชการที่มีงานภายในมหาวิทยาลัย (2) ศึกษาบรรยากาศองค์การหรือสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยกับทัศนคติของข้าราชการที่มีต่องาน นั่นคือ ตัวแปรที่สำคัญที่ได้รับการศึกษา จะประกอบด้วย ตัวแปรความพอใจในงานและตัวแปรสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย.
สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทางด้านความคิดเห็นจากข้าราชการอาจารย์ภายในมหาวิทยาลัย จำนวน 100 ราย โดยตัวแปรแต่ละตัวได้เก็บรวบรวมข้อมูลในมิติที่สำคัญ ดังนี้ ตัวแปรความพอใจในงานเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 5 มิติ ได้แก่ ลักษณะงาน การบริหาร ความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน สิ่งตอบแทนที่เป็นวัตถุ และสิ่งตอบแทนที่ไม่ใช่วัตถุส่วนตัวแปรสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย เก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 8 มิติ ได้แก่ เป้าหมายของมหาวิทยาลัย โครงสร้างของการทำงาน ความรับผิดชอบต่องาน ความเป็นอิสระในการทำงาน ความอบอุ่นและการสนับสนุน การพัฒนาและความก้าวหน้า การยอมรับความขัดแย้ง และความรู้สึกผูกพัน
ผลการศึกษาพบว่า.
1. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเกิดลักษณะ "การมีภาวะเป็นสถาบัน" ในระดับสูง โดยพิจารณาได้จากข้าราชการภายในมหาวิทยาลัยมีความพอใจในงานระดับสูงทุก ๆ ด้านที่ทำการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาแยกตามมิติของความพอใจในงาน พบว่า ข้าราชการภายในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จะมีความพึงพอใจในงานด้าน "ลักษณะงาน" สูงสุด และมีความพอใจในงานด้าน "ความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน" ต่ำสุด
2. สภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยมีอิทธิพลต่อการมีภาวะเป็นสถาบันของมหาวิทยาลัย โดยพิจารณาได้จากสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยที่สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงระดับความพอใจในงานของข้าราชการได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับอัลฟา เท่ากับ 0.05 กล่าวคือ หากข้าราชการในมหาวิทยาลัยมีการรับรู้ต่อสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยในทางที่ดี ย่อมทำให้ข้าราชการภายในมหาวิทยาลัยมีความพอใจในงานระดับสูง และในทางตรงข้าม ถ้าหากข้าราชการภายในมหาวิทยาลัยมีการรับรู้ต่อสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยในลักษณะที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ย่อมทำให้ข้าราชการภายในมหาวิทยาลัยปฏิบัติงานด้วยความเบื่อหน่าย และอาจขาดความร่วมมือร่วมใจปฏิบัติงานในขอบเขตของงานที่รับผิดชอบได้
3. มิติย่อยของสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยมีอิทธิพลต่อการมีภาวะเป็นสถาบันของมหาวิทยาลัยแตกต่างกัน กล่าวคือ สภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยเป็นตัวแปรที่ประกอบด้วยหลายมิติ และในแต่ละมิติมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับความพอใจในงานไม่เท่ากัน โดยมิติที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับความพอใจในงานของข้าราชการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับอัลฟา 0.05 คือ ด้านความอบอุ่นและการสนับสนุน ด้านความรู้สึกผูกพันต่อมหาวิทยาลัย และด้านโครงสร้างของการทำงาน ส่วนด้านอื่น ๆ ของตัวแปรสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยที่นอกเหนือจากนี้ มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับความพอใจในงานของข้าราชการอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับอัลฟา 0.05.
ดังนั้น ข้อค้นพบทางสมมติฐานจากการศึกษาวัจัยนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงบรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อให้เอื้ออำนวยหรือเป็นเหตุจูงใจให้ข้าราชการเกิดความร่วมมือร่วมใจในการทำงานได้ กล่าวคือ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ควรให้ความสนใจหรือเน้นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยในด้านที่เหลืออีก 5 ด้าน เป็นสำคัญ ได้แก่ ด้านการพัฒนาและความก้าวหน้า ด้านความเป็นอิสระในการทำงาน ด้านความรับผิดชอบต่องาน ด้านเป้าหมายของมหาวิทยาลัย และด้านการยอมรับความขัดแย้ง.

Description:

วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2537.

Subject(s):

องค์การ
พฤติกรรมองค์การ
ความพอใจในการทำงาน

Keyword(s):

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

Resource type:

วิทยานิพนธ์

Extent:

16, 170 แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1729
Show full item record

Files in this item (EXCERPT)

Thumbnail
View
  • nida-ths-b9360ab.pdf ( 151.99 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • nida-ths-b9360.pdf ( 2,639.59 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSSDE: Theses [555]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×