Title:
| บทบาทคาดหวังของศูนย์เยาวชนตำบลในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ |
Other title(s):
| Role expectation of the Tambon Youth Center on human resource development |
Author(s):
| อารีย์ จรรยาชัยเลิศ |
Advisor:
| จิระวัฒน์ วงศ์สวัสดิวัฒน์, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name:
| พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level:
| ปริญญาโท |
Degree discipline:
| การวิเคราะห์ทางสังคม |
Degree department:
| คณะพัฒนาสังคม |
Degree grantor:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date:
| 1990 |
Publisher:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract:
|
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะความสอดคล้องหรือความแตกต่างของความคาดหวังต่อบทบาทของศูนย์เยาวชนตำบลในด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองการปกครอง ด้านสังคม ด้านส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและด้านกีฬานันทนาการของผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ฯ โดยเลือกศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างในจังหวัดมหาสารคามได้แก่ กลุ่มเยาวชนที่เป็นสมาชิกศูนย์ฯ จำนวน 67 คน กลุ่มผู้นำท้องถิ่น จำนวน 50 คน กลุ่มผู้ปกครอง จำนวน 50 คน และกลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จำนวน 73 คน รวม 240 คน และเพื่อศึกษาปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความคาดหวังต่อบทบาทของศูนย์ฯ ในด้านต่าง ๆ 5 ด้าน ผลการศึกษาจะเป็นประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ในงานด้านพัฒนาเยาวชนเพื่อปรับปรุงหรือวางแผนให้ศูนย์เยาวชนตำบล มีบทบาทเป็นที่ต้องการของคนในชุมชนเพื่อผลต่องานพัฒนาในด้านอื่น ๆ. ผลการศึกษาได้พบว่า. 1. บทบาทด้านเศรษฐกิจ กลุ่มผู้นำท้องถิ่นมีความคาดหวังสูงสุด กลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน กลุ่มเยาวชน และกลุ่มผู้ปกครอง มีความคาดหวังรองลงมาตามลำดับ โดยพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 เพียง 1 คู่ คือ กลุ่มผู้นำท้องถิ่นมีความคาดหวังสูงกว่ากลุ่มผู้ปกครอง ตัวแปรที่สามารถอธิบายความผันแปรของบทบาทด้านเศรษฐกิจได้ดีที่สุดคือ ตัวแปรการมีกิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับเยาวชนในหมู่บ้าน/ตำบล รองลงมาคือ เพศ และการเป็นผู้นำท้องถิ่น ตัวแปรทั้งสามมีอิทธิพลทางบวกและอธิบายได้ 19 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ทั้งชุด 8 ตัวแปร อธิบายได้ 20 เปอร์เซนต์ นอกจากนั้น ทั้ง 4 กลุ่มมีความเห็นว่า บทบาทบางข้อเป็นบทบาทที่ดีแต่คงจะทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น บทบาทในการปรับปรุงแนะนำอาชีพใหม่แก่สมาชิกศูนย์ฯ หรือคนในชุมชน หรือบทบาทในการรวมกลุ่มเพื่อจัดหาทุนสำหรับพัฒนาอาชีพของสมาชิกศูนย์ฯ เป็นต้น 2. บทบาทด้านการเมืองการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย กลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนมีความคาดหวังสูงสุด กลุ่มผู้นำท้องถิ่น กลุ่มเยาวชน และกลุ่มผู้ปกครองมีความคาดหวังรองลงมาตามลำดับ ผลวิเคราะห์พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง (1) กลุ่มผู้นำท้องถิ่นกับกลุ่มผู้ปกครอง (2) กลุ่มผู้ปกครองกับกลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน (3) กลุ่มเยาวชนกับกลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ตัวแปรที่อธิบายความผันแปรของบทบาทด้านการเมืองการปกครองได้ดีที่สุด คือ ตัวแปรเพศ และการมีกิจกรรมอื่น ๆ รองลงมาคือ การเป็นผู้นำท้องถิ่น ตัวแปรทั้งสามมีอิทธิพลทางบวกและอธิบายได้ 14 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ทั้งชุด 8 ตัวแปร อธิบายได้ 15 เปอร์เซนต์ และทั้ง 4 กลุ่มมีความเห็นว่า บทบาทบางข้อเป็นบทบาทที่ดีแต่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น บทบาทในการส่งเสริมให้สมาชิกศูนย์ฯ ร่วมเป็นคณะกรรมการสภาตำบล หรือคณะกรรมการหมู่บ้าน เป็นต้น 3. บทบทด้านสังคม กลุ่มผู้นำท้องถิ่นมีความคาดหวังสูงสุด กลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน กลุ่มผู้ปกครองและกลุ่มเยาวชน มีความคาดหวังรองลงมาตามลำดับ แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของความคาดหวังของทั้ง 4 กลุ่ม ตัวแปรที่อธิบายความผันแปรของบทบาทด้านสังคมได้ดีที่สุด คือ ตัวแปรเพศ และอายุ และมีอิทธิพลทางบวกสามารถอธิบายได้ 12 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ทั้งชุด 8 ตัวแปรอธิบายได้ 16 เปอร์เซนต์ และบทบาทที่ดีแต่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น บทบาทในการทำหน้าที่เป็นกลุ่มนำในการพัฒนาท้องถิ่น เป็นต้น 4. บทบาทด้านส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นและศาสนา กลุ่มผู้นำท้องถิ่นมีความคาดหวังสูงสุด กลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน กลุ่มผู้ปกครองและกลุ่มเยาวชน มีความคาดหวังรองลงมาตามลำดับ โดยพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเพียง 1 คู่คือ กลุ่มผู้นำท้องถิ่นมีความคาดหวังสูงกว่ากลุ่มเยาวชน ตัวแปรที่อธิบายความผันแปรของบทบาทด้านส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมได้ดีที่สุด คือ ตัวแปรเพศ และอายุ รองลงมาคือ การมีกิจกรรมอื่น ๆ ตัวแปรทั้งสามมีอิทธิพลทางบวกและอธิบายได้ 18 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ทั้งชุด 8 ตัวแปรอธิบายได้ 20 เปอร์เซนต์ และบทบาทที่ดีแต่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น บทบาทในการชักชวนให้สมาชิกศูนย์ฯ สนใจอ่านหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา เป็นต้น 5. บทบาทด้านส่งเสริมกีฬาและนันทนาการ กลุ่มผู้นำท้องถิ่น มีความคาดหวังสูงสุด กลุ่มผู้ปกครอง กลุ่มเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และกลุ่มเยาวชน มีความคาดหวัง รองลงมาตามลำดับ แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของความคาดหวังทั้ง 4 กลุ่ม ตัวแปรที่อธิบายความผันแปรของบทบาทด้านส่งเสริมกีฬาได้ดีที่สุด คือ ตัวแปรเพศ และการมีกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งมีอิทธิพลทางบวก แต่ตัวแปรการเป็นเยาวชนเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม และอธิบายได้ดีรองลงมา ตัวแปรทั้งสามอธิบายความผันแปรได้ 17 เปอร์เซนต์ ในขณะที่ทั้งชุด 8 ตัวแปรอธิบายได้ 19 เปอร์เซนต์ และบทบาทที่ดีแต่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ เช่น บทบาทในการหาทุนเพื่อสนับสนุนในการส่งเสริมกีฬา เป็นต้น โดยสรุป พบว่า ชุดตัวแปรที่อธิบายความผันแปรของความคาดหวังในบทบาทด้านต่าง ๆ ของศูนย์ฯ ได้มากที่สุด อธิบายได้ประมาณ 29 เปอร์เซนต์ ตัวแปร เพศ อายุ และการมีกิจกรรมอื่น ๆ อธิบายความคาดหวังในบทบาทด้านเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรมและกีฬานันทนาการได้ดีที่สุด และทั้ง 4 กลุ่มให้ความสำคัญกับบทบาทด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ บทบาทด้านสังคม กลุ่มคนในท้องถิ่นคาดหวังว่าศูนย์ฯ ควรจะช่วยเหลือให้สมาชิกมีอาชีพหลักมากที่สุด รองลงมาคือ ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางสังคมให้แก่สมาชิก สำหรับปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของศูนย์ ทั้ง 4 กลุ่ม มีความเห็นว่า มี 2 ประเภท คือ ประเภทแรกเกิดจากตัวเยาวชนเอง และประเภทที่สองเป็นผลกระทบมาจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเยาวชนรวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ.
|
Description:
|
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2533.
|
Subject(s):
| ศูนย์เยาวชน
ศูนย์เยาวชนตำบล |
Resource type:
| Thesis |
Extent:
| xv, 189 แผ่น |
Type:
| Text |
File type:
| application/pdf |
Language:
| tha |
Rights:
| ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Access rights:
| สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็มเฉพาะ นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เท่านั้น |
Rights holder(s):
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
URI:
| http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1736 |