ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดนครนายก
Publisher
Issued Date
1991
Issued Date (B.E.)
2534
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
ก-ฌ, 181 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สุวารี สุขุมาลวรรณ์ (1991). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดนครนายก. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1792.
Title
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดนครนายก
Alternative Title(s)
Factors affecting the performance of Health Volunteers (ZVHC/VHV) in Primary Health Care Project : a case study of Nakon-Nayok Province
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน โดยศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดนครนายก ซึ่งศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มด้วยกัน คือ อสม. 31 คน ผสส. 89 คน และมีผู้ที่ร่วมให้ข้อมูลในการประเมินผลการปฏิบัติงานรวมทั้งสิ้น 333 คน โดยใช้แบบสอบถาม แนวคำถามสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์เจาะลึก (Dept Interview) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา การหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Pearson product moment correlation) และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงซ้อน (Multiple regression analysis) แบบเลือกตัวแปรอธิบายความผันแปรได้มากที่สุด (Stepwise)
ผลการวิจัยเพื่อศึกษาลักษณะการปฏิบัติหน้าที่จริง และปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน พบว่า มี 5 ประการคือ
1) คุณสมบัติและวิธีการคัดเลือก ผสส. และ อสม. ไม่เหมาะสม
2) ขาดการฝึกอบรมฟื้นฟูให้แก่ ผสส. และ อสม. อย่างต่อเนื่อง และการให้ ผสส. และ อสม. ศึกษาหาความรู้จากแบบเรียนด้วยตนเองไม่เป็นจริง.
3) ประชาชนมีความพึงพอใจในการรับบริการจาก อสม. มากกว่า ผสส.
4) การนิเทศงาน ผสส. และ อสม. ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลขาดทั้งปริมาณและคุณภาพ.
5) การประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผสส. และ อสม. โดยให้ ผสส.และ อสม. ประเมินตนเองไม่ค่อยเหมาะสม เนื่องจากมีความเอนเอียงในการประเมินผล
ผลการวิจัยเพื่อศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ ผสส. พบว่า ปัจจัยเรื่องความเพียงพอของรายได้ของครอบครัว มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ ผสส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 นอกจากนั้น จากการศึกษาเพิ่มเติมยังพบว่า การประสานงานระหว่าง ผสส. ด้วยกัน มีความสัมพันธ์ทางลบกับความพึงพอใจของประชาชนต่อการรับบริการจาก ผสส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.
สำหรับผลการวิจัยเพื่อศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ อสม. พบว่า ปัจจัยเรื่องความเพียงพอของสิ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. และการประสานงานระหว่างผสส. กับ อสม. มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 95 และจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ความเพียงพอของรายได้ของครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางลบกับความพึงพอใจของประชาชนต่อการรับบริการจาก อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 99 และความเพียงพอของสิ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. ที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านการให้สุขศึกษาแก่ประชาชนของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.
ผลการวิจัยเพื่อศึกษาลักษณะการปฏิบัติหน้าที่จริง และปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขในโครงการสาธารณสุขมูลฐาน พบว่า มี 5 ประการคือ
1) คุณสมบัติและวิธีการคัดเลือก ผสส. และ อสม. ไม่เหมาะสม
2) ขาดการฝึกอบรมฟื้นฟูให้แก่ ผสส. และ อสม. อย่างต่อเนื่อง และการให้ ผสส. และ อสม. ศึกษาหาความรู้จากแบบเรียนด้วยตนเองไม่เป็นจริง.
3) ประชาชนมีความพึงพอใจในการรับบริการจาก อสม. มากกว่า ผสส.
4) การนิเทศงาน ผสส. และ อสม. ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลขาดทั้งปริมาณและคุณภาพ.
5) การประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผสส. และ อสม. โดยให้ ผสส.และ อสม. ประเมินตนเองไม่ค่อยเหมาะสม เนื่องจากมีความเอนเอียงในการประเมินผล
ผลการวิจัยเพื่อศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ ผสส. พบว่า ปัจจัยเรื่องความเพียงพอของรายได้ของครอบครัว มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ ผสส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 นอกจากนั้น จากการศึกษาเพิ่มเติมยังพบว่า การประสานงานระหว่าง ผสส. ด้วยกัน มีความสัมพันธ์ทางลบกับความพึงพอใจของประชาชนต่อการรับบริการจาก ผสส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.
สำหรับผลการวิจัยเพื่อศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ อสม. พบว่า ปัจจัยเรื่องความเพียงพอของสิ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. และการประสานงานระหว่างผสส. กับ อสม. มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 95 และจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ความเพียงพอของรายได้ของครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางลบกับความพึงพอใจของประชาชนต่อการรับบริการจาก อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 99 และความเพียงพอของสิ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. ที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านการให้สุขศึกษาแก่ประชาชนของ อสม. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2534.