Title:
| ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสภาตำบล : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดฉะเชิงเทรา |
Other title(s):
| Factors related to effectiveness of Tambol Council Committee : a case study of Chacheongsoa Province |
Author(s):
| สมบูรณ์ สอนประภา |
Advisor:
| วิชัย รูปขำดี, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name:
| พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level:
| ปริญญาโท |
Degree discipline:
| พัฒนาสังคม |
Degree department:
| คณะพัฒนาสังคม |
Degree grantor:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date:
| 1994 |
Publisher:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract:
|
มีวัตถุประสงค์คือ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของการดำเนินงานของ กสต. 2) เพื่อศึกษาถึงความเห็นของ คปต. ในการดำเนินงานของ กสต. 3) เพื่อศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลในการดำเนินงานพัฒนาชนบทของ กสต. และ 4) เพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของ กสต. และข้อเสนอแนะมาตรการในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานพัฒนาชนบทของ กสต. การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสัมภาษณ์ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ คณะกรรมการสภาตำบล (กสต.) จำนวน 359 คน และคณะทำงานสนับสนุนการปฏิบัติการพัฒนาชนบทระดับตำบล (คปต.) จำนวน 84 คน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาทั้งหมด 443 คน ผลการศึกษาพบว่า. 1. ประสิทธิผลของคณะกรรมการสภาตำบลไม่ได้ขึ้นอยู่กับ อายุ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในหน้าที่และความสอดคล้องในอาชีพของ กสต. แต่ประการใด ดังนั้น กสต. ทุกคนจึงมีโอกาสที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผลเท่าเทียมกัน แต่มีความมีมนุษยสัมพันธ์ความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ การได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง การประสานงานภายใน กสต. และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของตำบล มีความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของ กสต. 2. ตัวแปรการประสานงานภายใน กสต.และความมีมนุษยสัมพันธ์ของ กสต.มีความสัมพันธ์มากที่สุดกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของ กสต. รองลงมาคือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของตำบล การได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องและความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของ กสต. ตามลำดับ. 3. คปต.มีความเห็นว่า กสต.ปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่งรวมทั้งการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของตำบล และร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ. 4. ปัญหาในการปฏิบัติงานของ กสต.ที่สำคัญ คือ (1) ความไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของ กสต. (2) การได้รับงบประมาณสนับสนุนไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานตามแผน (3) การขาดจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการทำงาน ไม่มีความเสียสละ และ (4) การขาดความเป็นเอกภาพในการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ จัดส่งลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากผลการศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะดังนี้ คือ (1) การเสริมสร้างประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของ กสต. สามารถทำได้โดยการฝึกอบรม กสต. ให้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง ให้มีมนุษย์สัมพันธ์มีการประสานงานและมีความร่วมมือ (2) การพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นคณะกรรมการสภาตำบล (กสต.) ควรคำนึงถึงคุณสมบัติส่วนตัวในด้านการมีมนุษยสัมพันธ์การสร้างกิจกรรมร่วมในตำบลและความเข้าใจในบทบาทหน้าที่มากกว่าอย่างอื่น (3) ควรปรับปรุงระบบบริหารงานของสภาตำบล ให้มีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับสถานภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ โดยการปรับปรุงและแก้ไขระเบียบกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการปกครองท้องถิ่นให้ทันต่อสภาวะการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ทั้งนี้เพื่อให้ กสต.เกิดความกระตือรือร้น ที่จะปรับตัวเองให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผลเพิ่มมากยิ่งขึ้น (4) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง และกรมการพัฒนาชุมชน จะต้องให้การสนับสนุนและให้โอกาสแก่บุคคลทุกคนให้ทำงานและฝึกอบรมโดยต่อเนื่องและสม่ำเสมอในระหว่างที่บุคคลเหล่านั้นยังดำรงตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการสภาตำบล
|
Description:
|
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2537.
|
Subject(s):
| การพัฒนาชนบท -- ไทย -- ฉะเชิงเทรา |
Keyword(s):
| การพัฒนาชนบท
สภาตำบล
คณะกรรมการสภาตำบล |
Resource type:
| Thesis |
Extent:
| [13], 285 แผ่น |
Type:
| Text |
File type:
| application/pdf |
Language:
| tha |
Rights:
| ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Access rights:
| สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็มเฉพาะ นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เท่านั้น |
Rights holder(s):
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
URI:
| http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1931 |