การเปรียบเทียบวิธีการประมาณค่าปริมาณน้ำฝนรายวัน ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์บริเวณพื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
Publisher
Issued Date
2011
Issued Date (B.E.)
2554
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
148 แผ่น ; 30 ซม.
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สัญชัย เอี่ยมประเสริฐ (2011). การเปรียบเทียบวิธีการประมาณค่าปริมาณน้ำฝนรายวัน ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์บริเวณพื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/2027.
Title
การเปรียบเทียบวิธีการประมาณค่าปริมาณน้ำฝนรายวัน ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์บริเวณพื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
Alternative Title(s)
Comparison of spatial daily rainfall amount interpolation methods by using geographic information system at Chao-Phra-Ya Flood Plain
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาการเปรียบเทียบวิธีการประมาณค่าปริมาณน้ำฝนรายวันด้วยระบบ สารสนเทศภูมิศาสตรบริเวณพื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยามีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความถูกต้อง ของวิธีการประมาณค่าปริมาณน้ำฝนรายวันด้วยวิธีที่แตกต่างกันโดยในการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการ ประมาณค่าจำนวน 5 วิธีหลัก 34 วิธีย่อยได้แก่วิธี Inverse Distance Weight, Radial Basis Functions, Kriging, CoKriging และสมการถดถอยเชิงเส้นของข้อมูลเรดาร์(RADAR) โดยใช้ข้อมูล ปริมาณน้ำฝนรายวันจากสถานีวัดน้ำฝนจำนวน 247 สถานีครอบคลุมพื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา และข้อมูลเรดาร์สถานีตรวจวัดอากาศตาคลีจังหวดนครสวรรค์ ราย 6 นาทีทดสอบความถูกตองใน การประมาณค่าด้วยข้อมูลน้ำฝนรายวันจากสถานีวัดน้ำฝนตัวอย่างจํานวน 60 สถานีโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนสมบูรณ์ (Mean Absolute Error; MAE) และความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ผลการศึกษาพบว่าวิธีสมการถดถอยเชิงเส้นของข้อมูลเรดาร์ให้ค่าเฉลี่ยความ คลาดเคลื่อนสมบูรณ์ (MAE) น้อยที่สุดเท่ากับ 5.81 มิลลเมตร และจากการทดสอบสถิติรายค่า F-test ด้วยวิธี LSD พบว่าวิธีดังกล่าวมีค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์น้อยกว่าวิธีอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.1) ) ส่วนผลการศึกษาเฉพาะวิธีการประมาณค่าที่ใช้ค่าสถิติพียงอย่างเดียว ได้แก่วิธีInverse Distance Weight, Radial Basis Functions แล Kriging พบว่าวิธี Kriging ฟังก์ชัน Stable มีค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนสมบูรณ์ (MAE) น้อยที่สุดเท่ากับ 8.35 มิลลเมตรแต่ จากการทดสอบสถิติรายค่า F-test ด้วยวิธี LSD พบว่าความคลาดเคลื่อนดังกล่าวแตกต่างอย่างไม่มี นัยสำคญทางสถิติ (p>0.1)
จากผลการศึกษาจึงพบว่าการประยุกต์ใช้ข้อมูลเรดาร์ในการประมาณค่าปริมาณน้ำฝน รายวันสําหรับพื้นที่ราบจึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2011