การดำรงอยู่ของอาชีพชาวนาไทย : กรณีศึกษาชาวนาจังหวัดลพบุรี
by สุพัดชา โอทาศรี
Title: | การดำรงอยู่ของอาชีพชาวนาไทย : กรณีศึกษาชาวนาจังหวัดลพบุรี |
Other title(s): | Existence of Thai farmers : a case study of farmers in Lopburi Province |
Author(s): | สุพัดชา โอทาศรี |
Advisor: | สุวิชา เป้าอารีย์, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | ปริญญาโท |
Degree discipline: | การบริหารการพัฒนาสังคม |
Degree department: | คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2011 |
Digital Object Identifier (DOI): | 10.14457/NIDA.the.2011.46 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์การดำรงอยู่ของอาชีพชาวนาไทย ใน จังหวัดลพบุรี 2) ศึกษาเงื่อนไขของการดำรงอยุ่ของอาชีพชาวนาไทยในจังหวัดลพบุรีและ 3) ศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดำรงอยู่ของอาชีพชาวนาไทยในจังหวัดลพบุรีผู้ ศึกษาได้ศึกษาข้อมูลจากเอกสารและรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลที่สําคัญรวมทั้งสิ้น 45 คน คือ ชาวนาในจังหวัดลพบุรีจํานวน 33 คน และเจ้าหน้าทที่เกษตรระดับจังหวัด และระดับเกษตรอำเภอ ในจังหวัดลพบุรีจํานวน 12 คน โดยใช้แนวทางการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก รวมทั้งการสังเกตพฤติกรรม และกระบวนการกลุ่ม ผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการจําแนกข้อมูลเป็นหมวดหมู่หาความหมายและความเชื่อมโยงของประเด็นต่างๆ ภายใต้บริบทที่เป็นอยู่แล้วนั้นเสนอผลการศึกษาเชิงพรรณนา ผลการศึกษา พบว่า สถานการณ์การดำรงอยู่ของอาชีพชาวนาไทยในจังหวัดลพบุรีมี จํานวนชาวนาที่อยู่ในพื้นที่เขตชลประทานเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากการมีแหล่งน้ำทที่อุดมสมบรูณ์ พื้นที่เหมาะสมแก่การทำนา มีเครื่องมือทางการเกษตรที่ทันสมัย ช่วยทุ่นแรงให้กับชาวนาได้ทํานา ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยั งมีแรงงานภาคเกษตรที่ช่วยในการทำนาแทนชาวนาได้อีกด้วย ตลอดจนการสนับสนุนทางนโยบายการเกษตรของรัฐบาล แต่สําหรับชาวนาที่อยู่นอกเขตพื้นที่ชลประทานกลับมีจํานวนชาวนาลดลงจากเดิม ทั้งนี้เพราะไม่มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ต้องรอเพียง นํ้าฝนในการทํานาเท่านั้น จึงสามารถทำนาได้เพียงปีละหนึ่งคร้ัง นอกจากนี้ต้นทุนการทำนาก็สูงขึ้น ราคาผลผลิตตกต่ำ อีกท้ังยังประสบภัยธรรมชาติต่างๆ จึงทําให้ชาวนาที่อยู่นอกเขตพื้นที่ ชลประทานบางส่วนเปลี่ยนไปทำไร่อ้อยแทนการทำนา เพราะว่าได้ราคาดีและมีวิธีปฏิบัติที่ง่ายกว่า การทำนาอย่างไรก็ตามจานวนของชาวนาในจังหวัดลพบุรีในอนาคต โดยรวมอาจจะมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้น เป็นเพราะความแตกต่างทางการสนับสนุนเชิงนโยบายของรัฐบาลแต่ละรัฐบาลในด้านเงื่อนไขของการดำรงอยู่ของชาวนาไทยในจังหวัดลพบุรีสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ปัจจัยหลักคือ 1) ปัจจยที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่ของชาวนาไทย ได้แก่ ปัจจัยด้านที่ดินและแหล่ง นํ้า ปัจจัยด้านวิธีการทำนา ปัจจยด้านการเงิน ปัจจยด้านนโยบาย และปัจจัยด้านวิถีการดำเนินชีวิต และ 2) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเลิกทานาของชาวนาไทย ได้แก้ ปัจจยด้านการย้ายถิ่น ปัจจัยด้าน ความหลากหลายของอาชีพในจังหวัดลพบุรีและปัจจัยด้านการสืบทอดของลูกหลาน ปัญหาและอุปสรรคที่ เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่ของชาวนาในจังหวัดลพบุรี 1) ปัญหาเรื่อง แหล่งน้ำ และภัยทางธรรมชาติเนื่องจากไม่มีการจัดการบริหารเรื่องแหล่งน้ำทที่ดีถึงแม้เป็นจังหวัดที่อยู่ในเขตชลประทานแต่ก็ยังพบปัญหาการขาดแคลนน้ําสําหรับชาวนาที่อยู่นอกเขตพื้นที่ ชลประทาน และปัญหาการจัดการกับน้ำที่มีในปริมาณที่มากเกินไป ไม่มีสถานที่สําหรับระบายน้ำ เมื่อถึงฤดูนํ้ าหลาก 2) ปัญหาการแทรกแซงจากนักการเมืองท้องถิ่น ทําให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน เกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดไม่สามารถควบคุมการกำหนดระยะเวลาการทำนาให้กับชาวนาใน จังหวัดลพบุรี3) ปัญหาเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ 4) ความไม่แน่นอนของราคาผลผลิตและการขนส่งที่เป็นไปด้วยความลำบากระยะทางไกลจึงไม่สามารถขาย ผลผลิตตามโรงสีได้จึงจำเป็นต้องขายให้กับพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อถึงที่แทน ถึงแม้ราคาจะต่ำกว่าก็ตาม 5) ปัญหาจากการสนับสนุนเชิงนโยบายในลักษณะประชานิยมของรัฐบาล ที่ให้การ ช่วยเหลือชาวนามากเกินไป ทําให้ต่อไปชาวนาจะไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้จะรอคอยการ ช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอยางเดียว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลต้องแบกภาระมากขึ้น ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาได้แก่ 1) ควรมีการใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย การดำเนินตามแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่ด้วยการปลูกพืชให้หลากหลายมากกว่าการทำนาเพียง อย่างเดียวให้ชาวนารู้จักพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ไม่จําเป็นต้องรอคอยความช่วยเหลือจากภาครัฐ 2) ควรส่งเสริมความรู้ให้กับชาวนาให้มีความรู้มากขึ้น เช่น เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว การใช้วัสดุใน ท้องถิ่น ต้องเข้าใจวิถีชีวิตของตนเองอยู่กับธรรมชาติให้ได้ 3)ภาครัฐต้องให้การสนับสนุนภาค เกษตรกรรมให้มากขึ้นและจริงจังอีกทั้งยังต้องมีการปลูกฝังอาชีพทำนาสนับสนุนแหล่งเงินทุนแก่ ชาวนาแต่ต้องตัดการให้เชิงประชานิยม |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.(การบริหารการพัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2011 |
Subject(s): | ชาวนา -- ไทย |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 11, 179 แผ่น ; 30 ซม. |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/2080 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|