ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการมีมารยาททางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
by อนันต์ แย้มเยื้อน
Title: | ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการมีมารยาททางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย |
Other title(s): | Psycho-social factors as correlate of ethical behavior of the secondary school students |
Author(s): | อนันต์ แย้มเยื้อน |
Advisor: | ดุจเดือน พันธุมนาวิน, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | ปริญญาโท |
Degree discipline: | พัฒนาสังคม |
Degree department: | คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2008 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
อย่างเหมาะสม และวิถี ชีวิตแบบพุทธ และทำนายได้สูงสุดในกลุ่มชายที่รายได้สูง ได้ 53.4% และ 2) พฤติกรรมป้องกัน โรคเอดส์ขณะมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มรวมได้46.5% โดยมีลำดับตัวทำนายที่สำคัญเรียงจากมาก ไปน้อย คือ ความเชื่อในประสิทธิผลแห่งตนต่อการป้องกันโรคเอดส์ ทัศนคติต่อพฤติกรรม ป้องกันโรคเอดส์ การได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อนอย่างเหมาะสม การรับรู้การมีอยู่และความ สะดวกในการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันโรคเอดส์ และสุขภาพจิต และทำนายได้สูงสุดในกลุ่มชายที่ ทำอาชีพอิสระหรือธุรกิจส่วนตัว ได้ 58.1% ประการที่ห้า ผลจากการวิเคราะห์อิทธิพลเชิงเส้นปรากฏว่า พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ ในชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ได้รับอิทธิพลทางตรงจากตัวแปรเชิงเหตุ ปัจจัยแรกการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์ได้รับอิทธิพลทางตรงจากตัวแปรเชิงเหตุ เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้1) ทัศนคติต่อพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์2) ความเชื่อในประสิทธิผลแห่งตน ต่อการป้องกันโรคเอดส์3) การได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องโรคเอดส์4) สุขภาพจิต 5) การได้รับ อิทธิพลจากกลุ่มเพื่อนอย่างเหมาะสม และ 6) วิถีชีวิตแบบพุทธ โดยตัวแปรเชิงเหตุในโมเดล สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์ได้ 43% ปัจจัยที่สอง พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้รับอิทธิพลทางตรงจากตัวแปรเชิง เหตุ เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้1) ความเชื่อในประสิทธิผลแห่งตนต่อการป้องกันโรคเอดส์ 2) ทัศนคติต่อพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์3) การได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อนอย่างเหมาะสม 4) การรับรู้การมีอยู่และความสะดวกในการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันโรคเอดส์และ 5) สุขภาพจิต โดยตัวแปรเชิงเหตุในโมเดล สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ 46% และพบด้วยว่า การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์มี ความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ขณะมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ (r = .22, p < .01) ประการที่หก ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเร่งด่วนที่ควรพัฒนา ได้แก่ 1) ชายที่มีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์น้อย ประกอบด้วย ชายที่อายุมาก ชายที่เที่ยวกลางคืนทุกเดือน ชายที่เที่ยวกลางคืนมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน และชายที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ โดย มีปัจจัยปกป้องที่สำคัญ คือ ทัศนคติต่อพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ความเชื่อในประสิทธิผลแห่งตนต่อการป้องกันโรคเอดส์สุขภาพจิต และการได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องโรคเอดส์และ 2) ชายที่ มีพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ขณะมีเพศสัมพันธ์น้อย ประกอบด้วย ชายที่ไม่โสด ชายที่มีรายได้ต่ำและชายที่ไม่เคยตรวจเอชไอวี โดยมีปัจจัยปกป้องที่สำคัญ คือ ความเชื่อในประสิทธิผลแห่ง ตนต่อการป้องกันโรคเอดส์ทัศนคติต่อพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์และการได้รับอิทธิพลจาก กลุ่มเพื่อนอย่างเหมาะสม จากผลการวิจัย ทำให้ได้ข้อเสนอแนะเพื่อต่อยอดการวิจัยได้ ดังนี้ 1) สามารถนำผลการวิจัยเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างชุดฝึกอบรม เพื่อพัฒนาให้เกิดพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ที่เหมาะสม จากนั้นจึงดำเนินการทำการวิจัยเชิงทดลองประเมินผลชุดฝึกอบรมเหล่านี้ ต่อไป 2) ควรเพิ่มเติมตัวแปรอื่นในงานวิจัยชิ้นต่อ ๆ ไป เช่น รูปแบบความสัมพันธ์และลักษณะของคู่รักหรือเพื่อนสนิท 3) ศึกษากลุ่มตัวอย่างในพื้นที่อื่นซึ่งมีอัตราความชุกของการติดเชื้อเอช ไอวีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายสูง นอกเหนือไปจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 4) เสริมผลการศึกษาที่ได้จากการวิจัยด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพในกลุ่มตัวอย่างที่สำคัญ เพื่อให้สามารถ ตอบคำถามการวิจัย ให้มีความครอบคลุมและละเอียดมากยิ่งขึ้น |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2008 |
Subject(s): | นักเรียนมัธยมศึกษา -- ไทย -- พฤติกรรม
มารยาทและการสมาคม -- ไทย |
Keyword(s): | มารยาททางสังคม
จิตลักษณะ |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 18, 314 แผ่น ; 30 ซม. |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/2121 |
Files in this item (EXCERPT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|