ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า
by จิรัตติกาล สุริยะ
Title: | ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า |
Other title(s): | Legal problematic on the enforcement of competition law |
Author(s): | จิรัตติกาล สุริยะ |
Advisor: | ปุ่น วิชชุไตรภพ |
Degree name: | นิติศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | Master's |
Degree department: | คณะนิติศาสตร์ |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2013 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การศึกษา เรื่อง ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการ แข่งขันทางการค้ามีวัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ ศึกษาแนวคิดและทฤษฏีว่าด้วยหลักเสรีภาพทาง เศรษฐกิจและการผูกขาดทางการค้า การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนและการบังคับใช้กฎหมาย แข่งขันทางการค้าของต่างประเทศและประเทศไทย ปัญหาทางกฎหมายและการควบคุมการแข่งขัน ทางการค้า และเสนอแนะแนวทางแก้ไขกฎหมายคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ผลการศึกษาพบว่า 1) พระราชบัญญัติ การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 บัญญัติให้ฝ่ายการเมืองสามารถ ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้ ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนมักจะมี ความสัมพันธ์กันทางธุรกิจกับธุรกิจที่ถูกร้องเรียนเรื่องการค้าไม่ธรรมไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ขณะที่ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นได้มาโดยการสรรหาโดยความ เห็นชอบของรัฐสภา 2) เกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดของประเทศไทยไม่ชัดเจนและต้องมีการพิสูจน์ให้ได้ก่อน ว่าผู้ประกอบธุรกิจนั้นมีอำนาจเหนือตลาดจริงหรือไม่ ต่างจากเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดของ ต่างประเทศเช่นสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นที่ใช้หลักพฤติกรรมตัดสินเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือ ตลาด 3) องค์กรที่ควบคุมการแข่งขันการค้าของไทยและสิงคโปร์ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายการ เมืองและเป็นองค์กรในกำกับของรัฐ ขณะที่สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีสถานะเป็นองค์กร อิสระมีอำนาจกึ่งตุลาการ (Quasi Judiciary) ในการสืบสวนสอบสวนการแข่งขันทางการค้า 4) สหภาพยุโรปโดยคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการแข่งขันทางการค้าปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้บริโภคมีอำนาจในการเป็นผู้เริ่มคดี ไต่สวนคดี และส่งให้ศาลยุโรปดำเนินคดี ในสหรัฐอเมริกา กฎหมายจึงเปิดโอกาสเอกชนผู้ได้รับความเสียหายจาการผูกขาดสามารถฟ้องร้องต่อผู้ผูกขาดได้ โดยตรง ส่วนของประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทยการฟ้องร้องระหว่างผู้บริโภคจะทำได้เมื่อ คณะกรรมการการค้าโดยธรรมได้สอบสวนเสร็จแล้ว แต่กรณีของไทยยังไม่มีการฟ้องร้องของผู้บริโภค ข้อเสนอแนะสำหรับการศึกษานี้คือ 1) ผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าต้องไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง หาก เป็นผู้ทรงคุณวุฒิเอกชนจะต้องสละการถือครองหุ้นในบริษัทที่ถืออยู่ และลาออกจากการเป็น กรรมการบริษัทเอกชนก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า 2) ควรกำหนดหลักเกณฑ์ทางจริยธรรมหรือหลักเกณฑ์ทางการประพฤติสำหรับ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สาธารณะ 3) ควรนำหลักการของพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาปรับใช้กับคณะกรรมการที่เป็นข้าราชการการเมืองและ ข้าราชการประจำที่ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า 4) ควรยกสถานะสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเป็นองค์กรอิสระเพื่อแยก สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าออกจากกระทรวงพาณิชย์ และป้องกันปัญหาผลประโยชน์ ทับซ้อน 5) สำนักงานคณะการแข่งขันทางการค้าต้องเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจที่ ได้รับการร้องเรียน รวมถึงการดำเนินการของสำนักงานฯ ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556. |
Subject(s): | การบังคับใช้กฎหมาย -- ไทย
การแข่งขันทางการค้า -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 110 แผ่น |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/2981 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|