กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ : กรณีศึกษาสำนักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคาม
by เรียวรุ้ง บุญเกิด
Title: | กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ : กรณีศึกษาสำนักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคาม |
Other title(s): | Restorative justice : A case study of provincial justice office in Mahasarakham province |
Author(s): | เรียวรุ้ง บุญเกิด |
Advisor: | สุวิชา เป้าอารีย์ |
Degree name: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | Master's |
Degree department: | คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2014 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์โดย สานักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคาม 2) ศึกษาเงื่อนไขความสาเร็จของกระบวนการไกล่เกลี่ย ระงับข้อพิพาท และ 3) ศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดาเนินกระบวนการยุติธรรม เชิงสมานฉันท์ เป็นการการศึกษาการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีการเก็บข้อมูลโดย การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจากผู้ให้ข้อมูลสาคัญ (Key Informant) 18 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่าง แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้แนวทางการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ของสานักงานยุติธรรมจังหวัด มหาสารคามใช้รูปแบบการไกล่เกลี่ย โดยกระบวนการเริ่มต้นประชาชนสามารถติดต่อได้ทั้ง ช่องทางจากสานักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคามและช่องทางจากเครือข่าย โดยมีขั้นตอนในการ ดา เนินกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ที่สาคัญ คือ 1) การเข้าสู่กระบวนการ 2) การจัดเวทีไกล่ เกลี่ย 3) การประสานส่งต่อกรณีพิพาท เงื่อนไขความสาเร็จในการไกล่เกลี่ยที่สาคัญมี 5 เงื่อนไขดังนี้ คือ 1) ความสมัครใจของ คู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ทา ให้กระบวนการไกล่เกลี่ยเริ่มต้นขึ้นได้ 2) ต้องมีผู้ไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นกลาง และมีลักษณะของผู้ไกล่เกลี่ยที่ดี 3) การไกล่เกลี่ยที่เกิดขึ้นในบริบทชุมชนหรือพื้นที่ที่มีวัฒนธรรม ประเพณีในการเคารพผู้ใหญ่ 4) การได้รับการสนับสนุนทั้งความรู้ความร่ วมมือจากคณะ กรรมการบริหารสานักงานยุติธรรมจังหวัด 5) การเลือกเวทีไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นธรรมชาติและ คู่กรณีคุ้นเคย จะส่งผลให้การไกล่เกลี่ยสามารถดา เนินไปอย่างราบรื่นและสา เร็จได้ ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ มี 9 ด้าน ได้แก่ 1) ปัญหาด้านสถานที่ตั้งของสานักงาน ยุติธรรมจังหวัดยังคงอาศัยในหน่วยงานอื่น จึงควรมีสถานที่เป็นเอกเทศน์และจัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเพื่ออานวยความสะดวกในการบริการประชาชน 2) ปัญหาด้านการดาเนินงานของ คณะกรรมการบริหารสานักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคามที่ไม่สามารถบริหารงานได้อย่างเต็มที่ ดงั นั้นควรมีหัวหน้าของสานักงานยุติธรรมจังหวัดโดยตรงไม่ใช้รูปแบบการดึงหัวหน้าจากจาก หน่วยงานอื่นมารับผิดชอบ 3) ปัญหาด้านบุคลากรที่ขาดความรู้ความสามารถและความขัดแย้งที่เกิด ในหน่วยงาน คณะกรรมการบริหารสานักงานยุติธรรมจังหวัดต้องเป็ นตัวกลางในการช่วยสร้าง ความสัมพันธ์และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอยู่เสมอ 4) ปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์ที่เป็น เชิงรับมากกว่าเชิงรุก จึงควรมีการลงพื้นที่ให้ทั่วถึงเพื่อรับฟังปัญหาในชุมชนอื่นๆ 5) ปัญหาของ การเก็บสถิติการไกล่เกลี่ยที่ไม่มีเครื่องมือมาตรฐานและไม่เห็นความสาคัญของการเก็บสถิติ จึงต้อง ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมสร้างเครื่องมือและเก็บสถิติเพื่อประโยชน์ในอนาคตต่อไป 6) ปัญหาด้าน ลกั ษณะผู้ไกล่เกลี่ยที่ความสัมพันธ์ทางสังคมกับคู่กรณีทา ให้เกิดการจา ยอมในการไกล่เกลี่ย ดังนั้น ต้องให้คู่กรณีมีสิทธิเลือกผู้ไกล่เกลี่ยได้เอง 7) ปัญหาด้านค่าใช้จ่ายและอุปกรณ์ในการดา เนินการทั้ง ในส่วนของเจ้าหน้าที่สานักงานยุติธรรมจังหวัดและผู้ไกล่เกลี่ย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ การสนับสนุนด้านงบประมาณและคาปรึกษา 8) ปัญหาด้านความร่วมมือจากหน่วยงานที่อยู่ใน กระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการยุติธรรม เชิงสมานฉันท์และทัศนคติในแง่ลบต่อกระบวนการไกล่เกลี่ย จึงต้องมีการสร้างความเข้าใจ ตระหนักถึงข้อดีในการใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยและตระหนักถึงการให้ความร่วมมือทุกรูปแบบ ประการสุดท้าย 9) ปัญหาจากการไม่ติดตามผลการดาเนินการไกล่เกลี่ยให้แก่ประชาชนกระทั่งต้อง เข้าสู่กระบวนการฟ้ องร้องเนื่องจากเกิดการผิดสัญญาขึ้น ดังนั้นต้องสร้างความรับผิดชอบให้แก่ เจ้าหน้าที่ทุกระดับในการช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้การไกล่เกลี่ยหรือกระบวนการ ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์เป็นเพียงการปฏิบัติที่เกิดการสูญงบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้น |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การบริหารการพัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557 |
Subject(s): | กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ -- ไทย -- มหาสารคาม |
Keyword(s): | กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 143 แผ่น |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3107 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|