อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนงานทำงานบ้าน : ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบทางกฎหมาย ในการที่ประเทศไทยจะให้สัตยาบัน
Files
Publisher
Issued Date
2014
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
157 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
b185198
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
รัชต์ บุราทร (2014). อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนงานทำงานบ้าน : ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบทางกฎหมาย ในการที่ประเทศไทยจะให้สัตยาบัน. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3207.
Title
อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนงานทำงานบ้าน : ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบทางกฎหมาย ในการที่ประเทศไทยจะให้สัตยาบัน
Alternative Title(s)
The ILO convention no. 189 decent work for domestic workers : A study of feasibility and legal impacts on Thailand's ratification
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ลูกจ้างทำงานบ้านเป็นแรงงานที่พบเห็นได้ทั่วไป เป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดอาชีพหนึ่งในสังคม
โดยทั่วไปแล้วแรงงานที่ประกอบอาชีพเหล่านี้มักถูกเรียกว่า “คนรับใช้” หรือ“คนใช้” ก็จะเป็นที่
เข้าใจกันว่าเป็นคนที่มีหน้าที่คอยรับใช้ ทางานบ้านโดยทาหน้าที่อย่างแม่บ้าน เช่น ทาความสะอาด
ทาอาหาร ซักผ้ารีดผ้า ดูแลรับใช้คนในบ้าน กฎหมายแรงงานของประเทศไทยเรียกลูกจ้างเหล่านี้ว่า
ลูกจ้างทางานเกี่ยวกับงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย แต่ก็มิได้ให้คาจากัดความหรือ
คานิยามไว้อย่างชัดแจ้ง แต่โดยการตีความของศาลฎีกา ศาลได้ถือเอาลักษณะในการทางานว่ามีการ
ประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วยหรือไม่เป็นเหตุสำคัญ หากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะเป็นงานบ้าน แต่ว่า
งานที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือแสวงกำไรของนายจ้าง ก็ไม่ถือว่าเป็นลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงาน
บ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย
ในปัจจุบัน ลูกจ้างทางานบ้านได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานแต่เพียงบาง
เรื่องเท่านั้น เนื่องจากการที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ.2555) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ที่ได้ออกมาเพื่อขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างทางานบ้านเพิ่มขึ้นจาก
กฎกระทรวง (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ยังมีข้อยกเว้น
ในการใช้บังคับแก่นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทางานเกี่ยวกับงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่
ด้วยในหลายประการสาคัญ เช่น ไม่ได้รับการคุ้มครองในเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ การกำหนดชั่วโมงการ
ทำงาน และสิทธิได้รับค่าชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง อีกทั้งลูกจ้างทางานบ้านก็ไม่ถือเป็น “ลูกจ้าง” ตาม
กฎหมายเงินทดแทนและกฎหมายประกันสังคม จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทั้งสองฉบับ
ดังกล่าวอีกด้วย
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ทาการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบถึงความเหมาะสมและผลกระทบทาง
กฎหมาย ในการที่ประเทศไทยจะให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 189
ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสาหรับคนงานทางานบ้าน เพื่อนำมาพิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข
หรือเพิ่มเติมบทบัญญัติของกฎหมาย ในส่วนของการให้ความคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้านของประเทศ
ไทยให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าวต่อไป
จากการศึกษาพบว่า กฎหมายของประเทศไทยยังไม่ได้ให้ความคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้านไว้
อย่างเหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน และไม่เท่าเทียมกับผู้ใช้แรงงานประเภทอื่นในหลายประการ
สำคัญ อีกทั้งการให้ความคุ้มครองในปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาฯฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่
มีคุณค่าสาหรับคนงานทางานบ้าน อันเป็นมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศสาหรับลูกจ้างทางาน
บ้านโดยเฉพาะ ผู้ศึกษาเห็นว่า เนื่องจากสภาพการทางานที่มีลักษณะพิเศษของการทำงานบ้าน หากนำ
บทบัญญัติของกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองผู้ใช้แรงงานทั่วไปมาใช้บังคับแก่ลูกจ้างทำงานบ้าน อาจ
ส่งผลให้ไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้อย่างเหมาะสม จึงควรมีบทบัญญัติของกฎหมายที่ให้ความ
คุ้มครองลูกจ้างทางานบ้านเป็นการเฉพาะ อนึ่ง ประเทศไทยควรให้สัตยาบันในอนุสัญญาฯฉบับที่
189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสาหรับคนงานทางานบ้าน และควรปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและเพิ่มเติม
บทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนงาน
ทางานบ้าน ซึ่งเป็นกรอบมาตรฐานแรงงานสากลสาหรับลูกจ้างทางานบ้าน อันจะทำให้ลูกจ้าง
ทำงานบ้านในประเทศไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกับผู้ใช้แรงงาน
ประเภทอื่น
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556