สถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินแผ่นดินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
Publisher
Issued Date
2014
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
143 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
ba185902
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ภัทร ไวยรัชพานิช (2014). สถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินแผ่นดินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3314.
Title
สถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินแผ่นดินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
Alternative Title(s)
The legal status of the state property in procession of the autonomous university
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาสถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินแผ่นดินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยศึกษาถึงแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินแผ่นดินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ รวมไปถึงการจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัดของรัฐและมหาวิทยาลัยที่อยู่ในกำกับของรัฐ ทั้งนี้ เพื่อวิเคราะห์สถานะทางกฎหมายของทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยและคุ้มครองทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ตลอดถึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่แล้วและกฎหมายที่จะบัญญัติขึ้นใหม่
การเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ในส่วนราชการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐนั้น ทำให้มหาวิทยาลัยมีความเป็นอิสระและความคล่องตัวในการบริหารมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมีอำนาจในการปกครองดูแลบำรุงรักษา ใช้ และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน ทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย โดยรายได้จากการใช้ที่ราชพัสดุดังกล่าวให้ถือเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ ทรัพย์สินที่มหาวิทยาลัยได้มา หรือมีผู้ยกให้ หรือได้มาโดยการซื้อจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยมีอำนาจในการใช้ ดูแล จำหน่ายแลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ในทาการศึกษาได้
อย่างไรก็ตาม สถานะทางทรัพย์สินในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีสถานะเช่นใด และมีขอบเขตมากน้อยเพียงใดในการจัดการและคุ้มครองทรัพย์สินดังกล่าวจากการศึกษา ผู้ศึกษาเห็นว่า ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย มีสถานะทางทรัพย์สิน ทั้งที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและทรัพย์สินของแผ่นดินธรรมดา โดยพิจารณาจากาการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินดังกล่าว และใช้ในขอบวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆ ทั้งนี้ ยังพบว่า การจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนที่เป็นที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินตามที่พระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยนั้นๆ กำหนดไว้สำหรับการคุ้มครองทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวกับเรื่องอายุความ และการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุ และในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ราชพัสดุ ในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเอกชนย่อมไม่สามารถที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับมหาวิทยาลัย หรือบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยได้ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1306 และมาตรา 1307 แต่ในกรณีทรัพย์สินในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆ กำหนดไว้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยจะได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชน์หรือไม่ เนื่องจากมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ
สำหรับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยในส่วนที่มีสถานะเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินธรรมดาพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้กำหนดห้ามมิให้เอกชนยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับมหาวิทยาลัยเฉพาะแต่ในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้จัดการใช้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามขอบวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆโดยสรุป ผู้ศึกษาเห็นว่า ควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยระบุคำนิยามให้ชัดเจนทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับสถานะทางทรัพย์สิน วิธีการจัดการ รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะต้องตีความในอนาคตในกรณีที่มีข้อพิพาทในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย โดยปราศจากข้อสงสัย หรือข้อกังขา และสุดท้ายเพื่อให้การนำบทบัญญัตินี้สามารถนำไปปรับใช้ให้เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน
การเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ในส่วนราชการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐนั้น ทำให้มหาวิทยาลัยมีความเป็นอิสระและความคล่องตัวในการบริหารมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมีอำนาจในการปกครองดูแลบำรุงรักษา ใช้ และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน ทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย โดยรายได้จากการใช้ที่ราชพัสดุดังกล่าวให้ถือเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ ทรัพย์สินที่มหาวิทยาลัยได้มา หรือมีผู้ยกให้ หรือได้มาโดยการซื้อจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยมีอำนาจในการใช้ ดูแล จำหน่ายแลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ในทาการศึกษาได้
อย่างไรก็ตาม สถานะทางทรัพย์สินในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีสถานะเช่นใด และมีขอบเขตมากน้อยเพียงใดในการจัดการและคุ้มครองทรัพย์สินดังกล่าวจากการศึกษา ผู้ศึกษาเห็นว่า ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย มีสถานะทางทรัพย์สิน ทั้งที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและทรัพย์สินของแผ่นดินธรรมดา โดยพิจารณาจากาการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินดังกล่าว และใช้ในขอบวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆ ทั้งนี้ ยังพบว่า การจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนที่เป็นที่เป็นที่ราชพัสดุและในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินตามที่พระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยนั้นๆ กำหนดไว้สำหรับการคุ้มครองทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวกับเรื่องอายุความ และการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ทั้งในส่วนที่เป็นที่ราชพัสดุ และในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ราชพัสดุ ในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเอกชนย่อมไม่สามารถที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับมหาวิทยาลัย หรือบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยได้ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1306 และมาตรา 1307 แต่ในกรณีทรัพย์สินในส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆ กำหนดไว้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยจะได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชน์หรือไม่ เนื่องจากมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ
สำหรับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยในส่วนที่มีสถานะเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินธรรมดาพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้กำหนดห้ามมิให้เอกชนยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับมหาวิทยาลัยเฉพาะแต่ในกรณีที่มหาวิทยาลัยได้จัดการใช้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามขอบวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้นๆโดยสรุป ผู้ศึกษาเห็นว่า ควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยระบุคำนิยามให้ชัดเจนทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับสถานะทางทรัพย์สิน วิธีการจัดการ รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะต้องตีความในอนาคตในกรณีที่มีข้อพิพาทในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย โดยปราศจากข้อสงสัย หรือข้อกังขา และสุดท้ายเพื่อให้การนำบทบัญญัตินี้สามารถนำไปปรับใช้ให้เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557