dc.contributor.advisor | วราภรณ์ วนาพิทักษ์ | th |
dc.contributor.author | รัฐชัย วงษ์ทอง | th |
dc.date.accessioned | 2019-01-28T04:21:34Z | |
dc.date.available | 2019-01-28T04:21:34Z | |
dc.date.issued | 2014 | th |
dc.identifier.other | b190068 | th |
dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4114 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (น.ม.) -- สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557 | th |
dc.description.abstract | การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทำงกฎหมายของการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ต่อการประกอบธุรกิจโรงแรมของประเทศไทย เพื่อศึกษาหาแนวทำงในการพัฒนาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายโรงแรมของไทย ให้สอดคล้องกับกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาปัญหาการจำแนกประเภทกิจการของการประกอบธุรกิจโรงแรม การกำหนดมาตรฐานบางประการ และมาตรการคุ้มครองธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 และกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายโรงแรมของประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย รวมทั้งศึกษาถึงหลักการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ยุทธศาสตร์รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน | th |
dc.description.abstract | ปัจจุบันเนื่องจากการจำแนกธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายไทยมิได้มีการจำแนกไว้อย่างชัดเจนโดยมีการยกเว้นให้ที่พักสาหรับการท่องเที่ยวท้องถิ่น ที่มีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง คนพักไม่เกิน 20 คนไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่ การจำแนกตามกรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน(ASEAN Framework Agreement on Services: AFAS) ตามที่ประเทศไทยได้ลงนามผูกพันไว้มีการจำแนกประเภทของธุรกิจที่พักไว้หลายประเภท ทำให้เกิดความสับสนในการบังคับใช้กฎหมายอีกทั้งการเข้าสู่ระบบของโรงแรมตามกฎหมายของผู้ประกอบการเดิม เมื่อกฎกระทรวงฯ ใช้บังคับยังมีอุปสรรคทำให้ผู้ประกอบการเดิมไม่สามารถเข้าสู่ระบบโรงแรมตามกฎหมายได้จึงก่อให้เกิดการหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และก่อให้เกิดความเลื่อมล้าในการประกอบธุรกิจในส่วนของการกำหนดมาตรฐานของโรงแรมนั้น อาเซียนได้กำหนดแนวทำงของมาตรฐานการท่องเที่ยวไว้ (ASEAN Tourism Standard) โดยกำหนด มาตรฐานโรงแรมเขียว (ASEAN GreenHotel) เพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทำงในการปฏิบัติ โดยคานึงถึงการประเมินที่เกี่ยวกับการดาเนินการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงาน การใช้น้า คุณภาพอากาศและมองไปถึงความร่วมมือกับชุมชนและท้องถิ่นในด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการโรงแรม ทั้งนี้ มาตรฐานของโรงแรมไทยในด้านต่างๆ ยังมีการกำหนดมาตรฐานที่คับแคบ ประกอบกับยังมีข้อจำกัดที่ไม่เอื้ออานวยต่อการประกอบธุรกิจ อาทิเช่น คุณสมบัติของผู้ขออนุญาตประกอบกิจการ ขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องพักการคานึงถึงคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือการจัดระดับของโรงแรมโดยวิธีการให้ดาว จึงทำให้กฎหมายโรงแรมของไทยมีการกำหนดมาตรฐานที่ล้าสมัย จากปัญหาดังกล่าวนี้ หากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว (ASEAN Economic Community: AEC) แล้ว จะทำให้ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากนักลงสัญชาติอาเซียน ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีมาตรการในการคุ้มครองและรองรับธุรกิจโรงแรมไม่ว่าจะเป็น การกำหนดมาตรฐานของโรงแรม 6 ดาว หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประเมินโรงแรมระดับ 6 ดาว หรือการคุ้มครองให้ธุรกิจเยี่ยงโรงแรมทำได้เฉพาะคนไทย ดังนั้น จึงควรพัฒนาเพิ่มเติมกฎหมายในการจำแนกประเภทของธุรกิจโรงแรมโดยจัดจำแนกให้เป็นธุรกิจที่พักประเภทต่างๆ ซึ่งประกาศเป็นกฎกระทรวงแยกประเภทไว้ต่างหากหรือเพิ่มเติมไว้ท้ายพระราชบัญญัติโรงแรม โดยเรียกว่า “โรงแรมประเภทรีสอร์ท” “โรงแรมประเภทบังกะโล”เป็นต้น อีกทั้งควรนามาตรฐานของการประกอบธุรกิจในต่างประเทศบางประการ มาปรับใช้กฎหมายโรงแรมของประเทศไทย เช่น การออกใบอนุญาตชั่วคราว การกำหนดให้อาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมทุกประเภทนั้น ต้องทำผลกระทบหรือประเมินในมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมในทุกอาคารที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ หรือการกำหนดบทบาทให้โรงแรมต้องจัดระดับการให้บริการ หรือไม่จำกัดพื้นที่ใช้สอยของห้องพักเพื่อเป็นการเปิดกว้างในรูปแบบของโรงแรมประเภทอื่นๆ และควรสร้างหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ.2481 เรื่องการขัดกันของสัญชาตินิติบุคคลให้คานึงถึงการขัดกันของนิติบุคคลระหว่างสัญชาตินอกอาเซียนกับสัญชาติอาเซียนและแก้กฎกระทรวงเพื่อคุ้มครองให้ธุรกิจที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551สงวนการประกอบธุรกิจไว้เฉพาะคนไทย พร้อมทั้งตั้งหน่วยงานในการจัดระดับโรงแรม เพื่อรองรับการประกอบธุรกิจโรงแรม 6 ดาว ในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน | th |
dc.description.abstract | ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้เขียนจึงเห็นควรพัฒนาปรับปรุงพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 และกฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 และกฎกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งนาเอามาตรฐานและมาตรการบางประการของต่างประเทศ มาประยุกต์ใช้กับกฎหมายโรงแรมของประเทศ ไทยเพื่อคุ้มครองและรับรองผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในการประกอบธุรกิจโรงแรมในประเทศที่จะเกิดขึ้น | th |
dc.description.provenance | Submitted by นักศึกษาฝึกงานมราชภัฎยะลา_2562 (บุษกร แก้วพิทักษ์คุณ) (budsak.a@nida.ac.th) on 2019-01-28T04:21:34Z
No. of bitstreams: 1
b190068.pdf: 3022797 bytes, checksum: 17a646a715857b203155335fe0d65ac4 (MD5) | th |
dc.description.provenance | Made available in DSpace on 2019-01-28T04:21:34Z (GMT). No. of bitstreams: 1
b190068.pdf: 3022797 bytes, checksum: 17a646a715857b203155335fe0d65ac4 (MD5)
Previous issue date: 2014 | th |
dc.format.extent | 141 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | ธุรกิจโรงแรม -- ไทย | th |
dc.subject.other | ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน | th |
dc.title | ปัญหาทางกฎหมายในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ต่อการประกอบธุรกิจโรงแรมของประเทศไทย | th |
dc.title.alternative | Legal problems for the Thai hotel Business in the realization of ASEAN economic community | th |
dc.type | Text | th |
mods.genre | วิทยานิพนธ์ | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.name | นิติศาสตรมหาบัณฑิต | th |
thesis.degree.level | Master's | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.department | คณะนิติศาสตร์ | th |