• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร
  • GSSDE: Dissertations
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร
  • GSSDE: Dissertations
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

กระบวนการเรียนรู้ของชุมชนในการเลือกยุทธวิธีการดำรงชีพสู่ความยั่งยืน : ศึกษากรณีของชุมชนบ้านใจดี ตำบลหนองขาม อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี

by ณัฐฑิณี รตานนท์

Title:

กระบวนการเรียนรู้ของชุมชนในการเลือกยุทธวิธีการดำรงชีพสู่ความยั่งยืน : ศึกษากรณีของชุมชนบ้านใจดี ตำบลหนองขาม อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี

Other title(s):

Community learning process in selecting livelihood strategy towards sustainability : a case Study of Ban Jaidee Community, Nong-Khaam Sub-district, Nong-Ya-Sai District, Suphanburi Province

Author(s):

ณัฐฑิณี รตานนท์

Advisor:

อาแว มะแส

Degree name:

ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Degree level:

Doctoral

Degree discipline:

พัฒนาสังคมและการจัดการสิ่งแวดล้อม

Degree department:

คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

2015

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบริบทภายในและภายนอกชุมชน รวมทั้งความเปราะบางที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพของคนในชุมชน กระบวนการเรียนรู้ของชุมชนในการเลือกยุทธวิธีการดำรงชีพ และผลของกระบวนการเรียนรู้ของชุมชนในการเลือกยุทธวิธีการดำรงชีพสู่ความยั่งยืน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยตามแนวทางเชิงคุณภาพ ในลักษณะของกรณีศึกษา ซึ่งเป็นการศึกษาเฉพาะกรณีของชุมชนบ้านใจดี ตำบลหนองขาม อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี การรวบรวมข้อมูลทำโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informants Interview) คือ แกนนำและสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่มีประสบการณ์สูง จำนวน12 ครัวเรือน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา จำนวน 2 คน ควบคู่กับการสังเกตโดยตรงเกี่ยวกับบริบทของชุมชนและความเคลื่อนไหวต่างๆ ในการทำกิจกรรม โดยได้ทำการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 ถึง 31 มกราคม พ.ศ. 2557 การวิเคราะห์ข้อมูลดำเนินการโดยการวิเคราะห์เนื้อหา การจำแนกประเภทของข้อมูล การสังเคราะห์ข้อมูล และการตีความแล้ว นำเสนอเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า ลักษณะของชุมชนมีสภาพเป็นชุมชนชนบท มีความหนาแน่นของประชากรต่ำ การตั้งบ้านเรือนกระจัดกระจาย ส่วนใหญ่ของสมาชิกชุมชนเป็นผู้อพยพหนีภัยแล้งจากจังหวัดบุรีรัมย์มาตั้งถิ่นฐานใหม่เพื่อหนีปัญหาความยากจน และมีการนำวิถีการดำรงชีพที่คุ้นเคยจากถิ่นเดิม คือ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้า มาปฏิบัติแล้วพัฒนาขึ้นมาจนสามารถรวมเป็นกลุ่มพัฒนาอาชีพได้ก้าวหน้าพอสมควร แต่ต่อมา กลับประสบปัญหาด้านการผลิต อันมาจากความเปราะบางบางประการ ได้แก่ ความอ่อนไหวของหนอนไหม ความแห้งแล้งของพื้นที่ การขาดเงินทุน การขาดความรู้ที่ดีในการผลิต อีกทั้งยังมีการแทรกแซงจากภายนอกที่เป็นภาคเอกชน จึงทำให้รวมตัวกันไม่ติด ประกอบกับได้เกิดโรคระบาดของหม่อนและไหม อันส่งผลให้สมาชิกหลายคนตัดสินเลิกปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้า แต่ก็ยังมีสมาชิกบางส่วนที่อดทน เรียนรู้ และพัฒนาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมต่อจนประสบความสำเร็จในปัจจุบันและสามารถนำไปสู่การดำรงชีพต่อไปได้
ลักษณะการเรียนรู้ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในชุมชนใจดีเป็นการเรียนรู้โดยลงมือทำจริง ควบคู่กับการเรียนรู้โดยมีตัวแบบ ผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์ มีการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง แล้วนำมาปรับวิธีการให้เข้ากับยุคสมัย ด้วยการยอมรับสายพันธุ์ไหมและวิธีการเลี้ยงตามหลักวิชาการ ซึ่งได้รับการแนะนำทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน จนประสบความสาเร็จเป็นที่ยอมรับ กลายเป็นตัวแบบให้คนยุคใหม่ ให้คนในชุมชนเห็นเป็นแบบอย่าง และประสบความสำเร็จหลายครัวเรือน ในขณะเดียวกัน มีบางครัวเรือนที่เลิกทำอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไปทาอาชีพอื่น และบางส่วนที่ทำกิจกรรมการดำรงชีพที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงในการดำรงชีพ

Description:

วิทยานิพนธ์ (ปร.ด. (พัฒนาสังคมและการจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557

Subject(s):

การศึกษาชุมชน

Resource type:

ดุษฎีนิพนธ์

Extent:

193 แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4455
Show full item record

Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • b190484.pdf ( 3,880.25 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSSDE: Dissertations [59]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×