dc.contributor.author |
พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต |
|
dc.date.accessioned |
2019-09-23T10:59:12Z |
|
dc.date.available |
2019-09-23T10:59:12Z |
|
dc.date.issued |
2562-09-21 |
|
dc.identifier.citation |
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 ํ วันเสาร์ที่ 21 - วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562 |
th |
dc.identifier.other |
c-190921063043(21 ก.ย. 62/07:13) |
|
dc.identifier.uri |
http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4621 |
|
dc.description.abstract |
จุดเริ่มต้นยุคแรกของ สตรีนิยม เกิดกลางศตวรรษที่ 19 บนฐานของการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศทั้งในเรื่องสิทธิทางการเมืองและกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิในการเลือกตั้ง ถัดมาในทศวรรษที่ 1960 และ 1970 สตรีนิยมมีการเคลื่อนไหวและการจัดตั้งความคิดเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความคิดเกี่ยวกับการปลดปล่อยสตรีให้เป็นอิสระจากการครอบงำของความคิดปิตาธิปไตย(ระบบพ่อปกครองลูก) และมีอำนาจกำหนดปริมณฑลส่วนตนด้วยตนเอง แก่นความคิดหลักของสตรีนิยมมีสี่ประการคือ การให้คำนิยามการเมืองแบบใหม่ การวิพากษ์อุดมการณ์ปิตาธิปไตย เพศและเพศสภาพ และความเท่าเทียมและความแตกต่าง ด้านการเมืองในโลกตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันเป็นการเมืองของบุรุษ และความเป็นบุรุษนี้เชื่อมโยงกับพื้นที่สาธารณะหรือสังคม ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการเมือง การศึกษา อาชีพ ศิลปะ และวรรณกรรม สตรีนิยมมีความคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองแบบ บุรุษชีวิตสาธารณะ เป็นการเมืองแบบ สตรีชีวิตส่วนตัว ซึ่งเป็นการเมืองที่เน้นและให้ความสนใจเรื่องบทบาทครอบครัว บทบาทการกำเนิดเด็ก การเลี้ยงดูเด็ก และการทำงานในครอบครัว ด้านสตรีนิยมมี 4 อุดมการณ์ย่อย คือ สตรีนิยมแบบเสรีนิยม สตรีนิยมแบบสังคมนิยม สตรีนิยมแบบเข้มข้น และสตรีนิยมแบบคลื่นที่สาม สตรีนิยมส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นและศรัทธาต่อเป้าหมายของความเท่าเทียมทางเพศและเชื่อว่าสามารถสถาปนาความสมานฉันท์ระหว่างเพศได้ โดยเฉพาะสังคมที่ไม่มีการเหยียดเพศ ในสังคมไทยผู้หญิงมีสิทธิเลือกตั้งอย่างเป็นทางการพร้อม ๆ กับผู้ชาย ตั้งแต่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นครั้งแรกขบวนการสตรีนิยมในสังคมไทยมีการเคลื่อนไหวโดยวิชาการและองค์การพัฒนาเอกชนบางกลุ่ม อย่างไรก็ตามความคิดแบบสตรีนิยมแบบเสรีนิยมมีอิทธิพลต่อสังคมไทยในปัจจุบันไม่น้อย จึงทำให้มีการส่งเสริมบทบาทและกำหนดมาตรการเสริมสร้างสิทธิทางการเมืองของสตรีมากขึ้น รวมถึงมีการจัดตั้งหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อส่งเสริมบทบาทและสิทธิของสตรีให้มีความเท่าเทียมกับบุรุษ แต่ยังมีความเป็นจริงอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ก็คือ สังคมไทยอุดมไปด้วยความคิดและความเชื่อแบบปิตาธิปไตยหรือบิดา (ผู้ชาย) เป็นใหญ่ ซึ่งยังคงเป็นความคิดกระแสหลักที่ครอบงำผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม การขยายบทบาทสตรีให้เพิ่มมากขึ้นจนมีความเท่าเทียมกับบุรุษในปริมณฑลทางการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องมีการต่อสู้ทางความคิด ทางวัฒนธรรมและทางการเมืองอีกยาวนาน |
th |
dc.format.extent |
2 หน้า |
th |
dc.format.mimetype |
application/pdf |
th |
dc.language.iso |
tha |
th |
dc.publisher |
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 ํ |
th |
dc.subject |
อุดมการณ์การเมือง |
th |
dc.subject |
สตรีนิยม |
th |
dc.subject |
ปิตาธิปไตย |
th |
dc.subject.other |
อุดมการณ์การเมือง |
th |
dc.subject.other |
สตรีนิยม |
th |
dc.subject.other |
ปิตาธิปไตย |
th |
dc.title |
อุดมการณ์การเมือง (11) สตรีนิยม ความยากลำบากในการข้ามพ้นปิตาธิปไตย |
th |
dc.type |
Text |
th |
dcterms.accessRights |
สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็ม เฉพาะ นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เท่านั้น |
th |
dc.rights.holder |
พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต |
th |
dc.rights.holder |
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 ํ |
th |
mods.genre |
บทความ--วิชาการ |
th |
mods.physicalLocation |
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา |
th |