การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการวางแผนทรัพยากรบุคคล : กรณีศึกษา บุคลากรสายสนับสนุนในระดับปฏิบัติการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Files
Publisher
Issued Date
2014
Issued Date (B.E.)
2557
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
154 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b191036
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สุรพงษ์ โพธิ์ขาว (2014). การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการวางแผนทรัพยากรบุคคล : กรณีศึกษา บุคลากรสายสนับสนุนในระดับปฏิบัติการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4657.
Title
การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการวางแผนทรัพยากรบุคคล : กรณีศึกษา บุคลากรสายสนับสนุนในระดับปฏิบัติการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Alternative Title(s)
An opinion survey on personnel planning of operational supporting staff at NIDA, Thailand
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การวางแผนทรัพยากรบุคคลถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่มี
คุณภาพมาปฏิบัติงาน ส่งมอบผลสัมฤทธิ์ให้แก่หน่วยงาน การวางแผนทรัพยากรบุคคลที่ดีสามารถ
พัฒนาได้ใน 3 มิติ ได้แก่ มิติ ด้านปริมาณ เพื่อทราบอัตรากา ลังคนที่เหมาะสมสอดคล้องกับภาระงานที่
ได้รับภายในหน่วยงานที่สังกัด มิติด้านคุณภาพ เพื่อทราบว่าผลการปฏิบัติงานของบุคลากรนั้นมี
คุณภาพ สามารถส่งมอบผลงานให้กับผู้บังคับบัญชาได้สำเร็จบรรลุเป้าหมาย มิติด้านการกระจาย เพื่อ
ทราบว่าบุคลากรในสถาบันฯได้รับการอุดช่องว่างโดยพัฒนาสมรรถนะในรายบุคคลอย่างทั่วถึงกัน เพื่อ
เน้นคุณภาพของ ผลการปฏิบัติงานผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการทำให้บุคลากรนำองค์ความรู้ ไป
ประยุกต์ใช้ในภาระงานของตนเองส่งผลให้งานมีคุณภาพ สถาบันฯให้ความสำคัญอย่างมากเพื่อที่จะ
พัฒนาสมรรถนะของบุคลากใรห้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจระดับความคิดเห็นของบุคลากรในระดับปฏิบัติการที่มี ต่อการวางแผนทรัพยากรบุคคลและผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุค 2) ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปร ด้านการวางแผนทรัพยากรบุคคลกับผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลใน ระดับปฏิบัติการ 3) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ วิธีการศึกษาใช้แนวทางการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูล ด้วยการแจก แบบสอบถามความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างของบุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 217 คน ผลการศึกษาพบว่า ตัวแปรด้านการวางแผนทรัพยากรบุคคล ด้านปริมาณในภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง (X̅ = 3.30, S.D. = .73 ) โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.51, S.D. = .68) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์อยู่ในระดับมาก(X ̅ = 3.47, S.D. = .84) ด้านคุณภาพในภาพรวมอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.46, S.D. = .62)โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.70, S.D. = .61) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์ อยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.72, S.D. = .62) ด้านการกระจาย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅ = 3.46, S.D. = .62) โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับปานกลาง( X̅ = 3.33, S.D. = .46) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์อยู่ในระดับ ปานกลาง (X̅ = 3.58, S.D. = .61) ค่าตัวชี้วัดผลผลิตโดยรวมทั้งสามด้านอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.51, S.D. = .49) ค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์โดยรวมทั้งสามด้านอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.59,S.D.=.57) โดยสรุป ความคิดเห็น ของบุคลากรสถาบันฯ สายสนับสนุน ต่อผลสัมฤทธ์ิการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก (X̅ = 3.55, S.D. = .49)
เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ พบว่า มีตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง 2 คู่ (r > .60) ได้แก่ (1)การวางแผนทรัพยากรบุคคลด้านคุณภาพมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ด้านผลผลิตของของ การวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ โดยมีค่าความสัมพันธ์ในทางบวก r = .616 p. = .000 ที่ระดับนัยสา คัญทางสถิติ .01 (2) การวางแผนทรัพยากรบุคคลด้านคุณภาพมีความสัมพันธ์กั บ ผลสัมฤทธ์ิด้านผลลัพธ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติกา รโดยมีค่าความสัมพันธ์ใน ทางบวก r = .620 p. = .000 ที่ระดับนัยสา คัญทางสถิติ. 01 เมื่อศึกษาผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณระหว่างการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ ของบุคลากรสถาบันฯสายสนับสนุน ด้านปริมาณ ด้านคุณภาพ และด้านการกระจายและ ผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการพบว่า มีปัจจัย 2 ตัว ได้แก่ ด้านคุณภาพ และด้านการกระจาย ที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ของ การวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 68 (R = 68.0) และสามารถอธิบาย ผลสัมฤทธ์ิของการวางแผนทรัพยากร บุคคลในระดับปฏิบัติการ ได้ร้อยละ 46.3 (R2 = .463) จากการพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยพหุ (Beta) เพื่อพิจารณาจัดลา ดับความสา คัญให้แก่ตัวแปรที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธข์ิ องการวางแผนทรัพยากร บุคคลในระดับปฏิบัติการ พบว่า ตัวแปรต้นที่อธิบายได้ดี เรียงตามลา ดับความสา คัญจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการกระจาย และด้านคุณภาพ ซึ่งมีค่า Beta .600 และ .041 ตามลา ดับ โดยมีความสัมพันธ์ต่อ ผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ อย่างมีนัยสา คัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาจะเห็นได้ว่า ปัจจัยด้านปริมาณ คือ การวางอัตรากา ลังคน ของสถาบันฯให้มี ความเหมาะสมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของสถาบันฯ อยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้น ควร ให้ความสำคัญกับการวางแผนอัตรากา ลังคนให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของหน่วยงานทั้ง สถาบันฯ เพื่อนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ขององค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจระดับความคิดเห็นของบุคลากรในระดับปฏิบัติการที่มี ต่อการวางแผนทรัพยากรบุคคลและผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุค 2) ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปร ด้านการวางแผนทรัพยากรบุคคลกับผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลใน ระดับปฏิบัติการ 3) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ วิธีการศึกษาใช้แนวทางการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูล ด้วยการแจก แบบสอบถามความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างของบุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 217 คน ผลการศึกษาพบว่า ตัวแปรด้านการวางแผนทรัพยากรบุคคล ด้านปริมาณในภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง (X̅ = 3.30, S.D. = .73 ) โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.51, S.D. = .68) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์อยู่ในระดับมาก(X ̅ = 3.47, S.D. = .84) ด้านคุณภาพในภาพรวมอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.46, S.D. = .62)โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.70, S.D. = .61) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์ อยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.72, S.D. = .62) ด้านการกระจาย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅ = 3.46, S.D. = .62) โดยมีค่าตัวชี้วัดผลผลิตอยู่ในระดับปานกลาง( X̅ = 3.33, S.D. = .46) และค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์อยู่ในระดับ ปานกลาง (X̅ = 3.58, S.D. = .61) ค่าตัวชี้วัดผลผลิตโดยรวมทั้งสามด้านอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.51, S.D. = .49) ค่าตัวชี้วัดผลลัพธ์โดยรวมทั้งสามด้านอยู่ในระดับมาก( X̅ = 3.59,S.D.=.57) โดยสรุป ความคิดเห็น ของบุคลากรสถาบันฯ สายสนับสนุน ต่อผลสัมฤทธ์ิการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก (X̅ = 3.55, S.D. = .49)
เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ พบว่า มีตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง 2 คู่ (r > .60) ได้แก่ (1)การวางแผนทรัพยากรบุคคลด้านคุณภาพมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ด้านผลผลิตของของ การวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ โดยมีค่าความสัมพันธ์ในทางบวก r = .616 p. = .000 ที่ระดับนัยสา คัญทางสถิติ .01 (2) การวางแผนทรัพยากรบุคคลด้านคุณภาพมีความสัมพันธ์กั บ ผลสัมฤทธ์ิด้านผลลัพธ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติกา รโดยมีค่าความสัมพันธ์ใน ทางบวก r = .620 p. = .000 ที่ระดับนัยสา คัญทางสถิติ. 01 เมื่อศึกษาผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณระหว่างการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ ของบุคลากรสถาบันฯสายสนับสนุน ด้านปริมาณ ด้านคุณภาพ และด้านการกระจายและ ผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการพบว่า มีปัจจัย 2 ตัว ได้แก่ ด้านคุณภาพ และด้านการกระจาย ที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ของ การวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับ ปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 68 (R = 68.0) และสามารถอธิบาย ผลสัมฤทธ์ิของการวางแผนทรัพยากร บุคคลในระดับปฏิบัติการ ได้ร้อยละ 46.3 (R2 = .463) จากการพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยพหุ (Beta) เพื่อพิจารณาจัดลา ดับความสา คัญให้แก่ตัวแปรที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธข์ิ องการวางแผนทรัพยากร บุคคลในระดับปฏิบัติการ พบว่า ตัวแปรต้นที่อธิบายได้ดี เรียงตามลา ดับความสา คัญจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการกระจาย และด้านคุณภาพ ซึ่งมีค่า Beta .600 และ .041 ตามลา ดับ โดยมีความสัมพันธ์ต่อ ผลสัมฤทธิ์ของการวางแผนทรัพยากรบุคคลในระดับปฏิบัติการ อย่างมีนัยสา คัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาจะเห็นได้ว่า ปัจจัยด้านปริมาณ คือ การวางอัตรากา ลังคน ของสถาบันฯให้มี ความเหมาะสมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของสถาบันฯ อยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้น ควร ให้ความสำคัญกับการวางแผนอัตรากา ลังคนให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของหน่วยงานทั้ง สถาบันฯ เพื่อนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ขององค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (รอ.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557