การสื่อสารเพื่อช่วยเหลือสังคมผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูและการรับรู้ของประชาชน
Files
Publisher
Issued Date
2015
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
94 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
b190101
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สุพรรณี ดีสวัสดิ์ (2015). การสื่อสารเพื่อช่วยเหลือสังคมผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูและการรับรู้ของประชาชน. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4906.
Title
การสื่อสารเพื่อช่วยเหลือสังคมผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูและการรับรู้ของประชาชน
Alternative Title(s)
Communication for helping community via social media facebook of Ruamkatanyu Foundation and Acknowledgement of People
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเพื่อสร้างการมี ส่วนร่วมกับแฟนเพจของมูลนิธิร่วมกตัญญู 2) ศึกษาการรับรู้ข่าวสารของแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญู 3) ศึกษาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญู 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การรับรู้ข่าวสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของแฟนเพจ มูลนิธิร่วมกตัญญูการวิจัยเรื่องนี้ใช้วิธีดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยแบ่งออกเป็น 2กลุ่ม ได้แก่ประชาชนที่เป็นแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญูจำนวน 400 คน และฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิร่วมกตัญญูที่ดูแลเฟซบุ๊กมูลนิธิฯ ร่วมกับการเก็บขอ้ มูลจาก การโพสต์เฟซบุ๊กตั้งแต่ปี2014 เป็นต้นมาการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สถิติเชิงอนุมาน เพื่อวิเคราะห์ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า
1) แฟนเพจส่วนใหญ่มีการใช้งานเฟซบุ๊กทุกวัน/สัปดาห์ จำนวน 2-5 ครั้ง/วัน ช่วงเวลา ในการเข้าใช้งาน, เฟชบุ๊กระหว่าง 18.01-22.00 น. มีการแชร์ภาพ/แชร์วีดีโอผ่านเฟชบุ๊คในระดับน้อย มีการติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนผ่าน, เฟชบุ๊กในระดับปานกลาง มีการสนทนาผ่าน โปรแกรมสนทนาในเฟซบุ๊กในระดับปานกลาง มีการเล่นเกมส์ผ่านเฟซบุ๊กในระดับน้อย มีการรับข่าวสารจากหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจในระดับมาก มีการอัพเดทขอ้มูลส่วนตัวของตนเองผ่านเฟซบุ๊ก ในระดับปานกลาง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กในระดับ ปานกลาง และส่วนใหญ่ ใช้งานเฟซบุ๊กผ่านโทรศัพท์มือถือ
2) การใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญูของกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ในส่วนของปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อเฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญูพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีปฏิสัมพันธ์โดยการกดถูกใจ(like) ข้อมูลที่นำเสนอมากที่สุด 3) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของมูลนิธิร่วมกตัญญูของกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง โดยพบว่ากลุ่มตัวอย่างบริจาคเงินให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญูเพื่อนำไปซื้ออโลงศพ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 4) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการบริจาคเงินและสิ่งของอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับ สูง 5) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมี ความสัมพันธ์ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการเข้าร่วมกิจกรรมที่มูลนิธิจัดขึ้นอย่า มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับ สูง 6) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมีความสัมพันธ์ ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการเข้าร่วมกิจกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับต่ำมาก
1) แฟนเพจส่วนใหญ่มีการใช้งานเฟซบุ๊กทุกวัน/สัปดาห์ จำนวน 2-5 ครั้ง/วัน ช่วงเวลา ในการเข้าใช้งาน, เฟชบุ๊กระหว่าง 18.01-22.00 น. มีการแชร์ภาพ/แชร์วีดีโอผ่านเฟชบุ๊คในระดับน้อย มีการติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนผ่าน, เฟชบุ๊กในระดับปานกลาง มีการสนทนาผ่าน โปรแกรมสนทนาในเฟซบุ๊กในระดับปานกลาง มีการเล่นเกมส์ผ่านเฟซบุ๊กในระดับน้อย มีการรับข่าวสารจากหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจในระดับมาก มีการอัพเดทขอ้มูลส่วนตัวของตนเองผ่านเฟซบุ๊ก ในระดับปานกลาง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กในระดับ ปานกลาง และส่วนใหญ่ ใช้งานเฟซบุ๊กผ่านโทรศัพท์มือถือ
2) การใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญูของกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ในส่วนของปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อเฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิร่วมกตัญญูพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีปฏิสัมพันธ์โดยการกดถูกใจ(like) ข้อมูลที่นำเสนอมากที่สุด 3) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของมูลนิธิร่วมกตัญญูของกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง โดยพบว่ากลุ่มตัวอย่างบริจาคเงินให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญูเพื่อนำไปซื้ออโลงศพ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 4) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการบริจาคเงินและสิ่งของอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับ สูง 5) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมี ความสัมพันธ์ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการเข้าร่วมกิจกรรมที่มูลนิธิจัดขึ้นอย่า มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับ สูง 6) การรับรู้ข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กของมูลนิธิร่วมกตัญญูมีความสัมพันธ์ ทางบวกกับการมีส่วนร่วมของแฟนเพจในกิจกรรมด้านการเข้าร่วมกิจกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01โดยมีความสัมพันธ์กันในระดับต่ำมาก