Title:
| ระบบการจัดหาน้ำสะอาดในชนบท : ศึกษาเฉพาะกรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
Author(s):
| เดชา เดชาดิลก |
Advisor:
| เอนก หิรัญรักษ์, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name:
| พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level:
| ปริญญาโท |
Degree discipline:
| สถิติประยุกต์ |
Degree department:
| คณะสถิติประยุกต์ |
Degree grantor:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date:
| 1978 |
Publisher:
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract:
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคมากที่สุด หน่วยราชการต่าง ๆ ของรัฐได้ช่วยจัดหาแหล่งน้ำหลาย ๆ ประเภทให้กับหมู่บ้าน เช่น ขุดบ่อน้ำ เจาะบ่อบาดาล ขุดสระ สร้างระบบประปา เป็นต้น เพื่อที่ชาวชนบทจะได้มีน้ำสะอาดสำหรับกินและใช้ แต่ความเดือดร้อนเรื่องน้ำก็ยังคงมีอยู่ในบางหมู่บ้าน การศึกษาครั้งนี้ต้องการหาระบบการจัดหาน้ำสะอาดที่ดีที่สุด กล่าวคือต้องการหาดัชนีหรือตัวชี้ (Indicators) ที่บอกว่าหมู่บ้านขาดแคลนน้ำหรือไม่ และดัชนีที่บอกว่าควรสร้างหรือพัฒนาแหล่งน้ำชนิดใด (หากรู้ว่าหมู่บ้านนั้นขาดแคลนน้ำ) ขอบข่ายของการศึกษาจำกัดเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภค และการบริโภคสำหรับคน รวมถึงน้ำสำหรับวัวควายซึ่งเป็นสัตว์ใช้งานที่มีในหมู่บ้าน วิธีการศึกษา ในชั้นแรกศึกษาจากเอกสารและข้อมูลจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำสะอาด เพื่อให้ทราบภูมิหลังและลักษณะทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับการสร้างหรือพัฒนาแหล่งน้ำ ต่อมาใช้ข้อมูลและผลที่ได้จากการประเมินผลโครงการจัดหาน้ำสะอาดในชนบททั่วราชอาณาจักร การประเมินผลนี้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยูนิเซฟได้จัดทำขึ้น ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งได้จากการศึกษาเพิ่มเติม การหาข้อมูลของการประเมินผลและการศึกษาเพิ่มเติมนี้ ใช้วิธีสุ่มหมู่บ้านตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วสัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านตัวอย่าง ณ ที่ตั้งของหมู่บ้าน พร้อมกับสังเกตแหล่งน้ำที่มีในหมู่บ้าน ผลการศึกษาพบว่า ดัชนีหรือตัวชี้ (Indicators) ที่บอกว่า หมู่บ้านขาดแคลนน้ำหรือไม่ ได้แก่ จำนวนครัวเรือนในหมู่บ้าน ความเห็นของบุคคลในหมู่บ้าน และแหล่งน้ำที่มีในหมู่บ้าน โดยมีขั้นตอนในการตัดสินใจดังนี้ ขั้นแรกให้ถามความเห็นของบุคคลที่อยู่ในหมู่บ้าน หากบุคคลเหล่านี้ตอบว่า หมู่บ้านมีน้ำเพียงพอจะสรุปได้ว่า หมู่บ้านมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ หากตอบว่าขาดแคลนน้ำ เรายังหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องหาข้อมูลจำนวนครัวเรือนและแหล่งน้ำที่มีในหมู่บ้าน นำข้อมูลทั้งสองนี้มาคำนวณประกอบกัน หากประเภทและจำนวนแหล่งน้ำที่มีอยู่ไม่สามารถให้บริการครัวเรือนทั้งหมดได้ ก็ถือว่าหมู่บ้านนั้น ๆ เดือดร้อนเรื่องน้ำ รัฐควรเข้าช่วยเหลือจัดหาแหล่งน้ำให้ สำหรับดัชนีที่บอกว่าควรสร้างแหล่งน้ำประเภทใดนั้นได้แก่ ความนิยม ความต้องการแหล่งน้ำประเภทต่าง ๆ ของชาวชนบท อุปนิสัยการใช้น้ำของชาวบ้าน ความเป็นไปได้ทางภูมิประเทศและวิชาการ ราคาค่าก่อสร้าง จำนวนครัวเรือนในหมู่บ้าน ความคงทนถาวรและการซ่อมบำรุงรักษา หลักการทางด้านอนามัย แหล่งน้ำที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ และเงื่อนไขเฉพาะสำหรับแหล่งน้ำแต่ละประเภท อย่างไรก็ตามหากนำแหล่งน้ำประเภทต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกันโดยใช้เกณฑ์ 5 อย่าง คือ ความนิยม และความต้องการของประชาชน ราคาค่าก่อสร้าง ความคงทนถาวรและการซ่อมบำรุงรักษา หลักการทางด้านอนามัย และเงื่อนไขอื่น ๆ พบว่า บ่อน้ำตื้นเป็นแหล่งน้ำที่ดีที่สุด รองลงมาเป็นบ่อน้ำบาดาล บ่อตอก การลอกสระที่มีอยู่แล้ว ประปา ถังเก็บน้ำฝน ขุดสระใหม่ และบาดาลติดสูบยนต์ ตามลำดับ. จากการศึกษาพบว่า หมู่บ้านขนาดเล็กควรแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำด้วยการขุดบ่อน้ำตื้นเป็นอันดับแรก หากไม่สามารถขุดบ่อน้ำให้เจาะบ่อตอกเป็นอันดับต่อมา หากเจาะบ่อตอกไม่ได้ให้ใช้วิธีขุดลอกสระ แล้วจึงพิจารณาขุดบ่อบาดาล ตามลำดับ หมู่บ้านขนาดกลางเลือกการขุดบ่อน้ำเป็นอันดับแรก หากขุดไม่ได้ให้ใช้วิธีเจาะบ่อตอก บ่อบาดาลหรือลอกสระที่มีอยู่แล้วตามลำดับ หมู่บ้านขนาดใหญ่ควรใช้วิธีสร้างบ่อน้ำตื้นก่อน แล้วจึงเลือกสร้างบ่อบาดาล บาดาลติดสูบยนต์และลอกสระตามลำดับ หมู่บ้านขนาดใหญ่มาก ต้องแก้ปัญหาด้วยการสร้างประปาหรือบาดาลติดสูบยนต์ก่อน แล้วจึงพิจารณาแหล่งน้ำอื่นต่อไป. ส่วนการแก้ปัญหาน้ำปศุสัตว์ ใช้วิธีลอกห้วย หนอง สระ หรือสร้างทำนบสำหรับกั้นลำห้วยจะดีที่สุด หากจำเป็นจริง ๆ จึงใช้วิธีขุดสระขึ้นใหม่ ในบทสุดท้ายได้มีข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ให้ดียิ่งขึ้น หลักสำคัญอยู่ที่การพยายามรักษาแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้วให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ใช้การได้นานที่สุด การศึกษาวิจัยครั้งนี้ยังมีข้อบกพร่องอยู่เป็นต้นว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีพื้นที่และบริเวณกว้างขวางมาก การหาข้อมูลจึงไม่ละเอียดพอ นอกจากนี้ การศึกษาครั้งนี้ได้ใช้ประมาณการจำนวนครัวเรือนที่แหล่งน้ำแต่ละประเภทสามารถให้บริการได้ ประมาณการดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างละเอียดและจริงจัง จึงควรมีการศึกษาในเรื่องนี้เป็นโครงการเฉพาะด้วย.
|
Description:
|
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (สถิติประยุกต์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2521.
|
Subject(s):
| น้ำ -- การทำให้บริสุทธิ์ |
Keyword(s):
| ไทย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
Resource type:
| Thesis |
Extent:
| 92 แผ่น |
Type:
| Text |
File type:
| application/pdf |
Language:
| tha |
Rights:
| ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Access rights:
| สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็มเฉพาะ นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เท่านั้น |
Rights holder(s):
| สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
URI:
| http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/522 |