โครงสร้างตลาดเงินฝากระยะยาวในประเทศไทย
by กวิน ภักดีกุลสัมพันธ์
ชื่อเรื่อง: | โครงสร้างตลาดเงินฝากระยะยาวในประเทศไทย |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Market structure of long-term deposits in Thailand |
ผู้แต่ง: | กวิน ภักดีกุลสัมพันธ์ |
ผู้ควบคุมงานวิจัย: | สุจิตรา ชำนิวิกย์กรณ์ |
ชื่อปริญญา: | เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต |
ระดับปริญญา: | Master's |
สาขาวิชา: | เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ |
คณะ/หน่วยงาน: | คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ |
หน่วยงานที่ประสาทปริญญา: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
วันที่เผยแพร่: | 2559 |
ตัวระบุวัตถุจิจิทัล (ดีโอไอ): | 10.14457/NIDA.the.2016.135 |
หน่วยงานที่เผยแพร่: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
บทคัดย่อ/เนื้อเรื่องย่อ: |
เงินฝากระยะยาวถือเป็นแหล่งการออมหลักของบุคคลทั่วไปที่จัดว่ามีความเสี่ยงน้อยที่สุด นอกเหนือจากการออมแล้ว วัตถุประสงค์ของการฝากเงินระยะยาวยังรวมไปถึงการลงทุนเพื่อให้ ได้มาของผลตอบแทนที่เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำด้วย และธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีการเสนออัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งเปรียบเสมือนการที่ผู้ผลิตเสนอราคาของสินค้าที่แตกต่างกันในตลาด การศึกษาโครงสร้างตลาดเงินฝากระยะยาวนี้จึงเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจ งานวิจัยนี้จึงมุ่งศึกษาโครงสร้างตลาดเงินฝากระยะยาวใน ประเทศไทยว่าเป็นโครงสร้างตลาดที่มีการผูกขาด กึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด หรือว่าแข่งขันสมบูรณ์ โดย ทำการทดสอบด้วยวิธีการของ Panzar Rosse เพื่อทดสอบโครงสร้างตลาดด้วยค่าสถิติ H ที่ หมายถึงผลรวมค่าความยืดหยุ่นของรายรับรวมต่อราคาปัจจัยการผลิต จากนั้นได้มีการจำลองตัว แบบสมการโครงสร้าง ประกอบด้วยสมการต้นทุนรวม และสมการอุปสงค์เงินฝากระยะยาว คำนวณห่าค่าดัชนีชี้วัดอำนาจผูกขาด เพื่อเปรียบเทียบอำนาจผูกขาดของธนาคารพาณิชย์ใน ประเทศไทย จากการศึกษาพบว่าโครงสร้างตลาดเงินฝากระยะยาวของไทยมีลักษณะโครงสร้างเป็นแบบผูกขาดในปี พ.ศ. 2557 และมีแนวโน้มที่ธนาคารพาณิชย์จะผูกขาดน้อยลงในปี พ.ศ. 2558 โดยในปี ดังกล่าวธนาคารพาณิชย์มีโครงสร้างตลาดแบบกึ่งแข่ง กึ่งผูกขาด ซึ่งการเปลี่ยนแปลง เหล่านี้อาจเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก เช่นภาวะเศรษฐกิจในประเทศ การเติบโตขึ้นของตลาด สินเชื่อในปี พ.ศ. 2558 เป็นต้น ส่วนผลการศึกษาจากแบบจำลองสมการโครงสร้าง พบว่าธนาคาร พาณิชย์แต่ละแห่งมีการด าเนินกิจการด้วยต้นทุนส่วนเพิ่มที่แตกต่างกัน แต่โดยภาพรวมแล้ว ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีต้นทุนส่วนเพิ่มน้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางจะมีข้อได้เปรียบต่อธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ เนื่องจากหากมีการเพิ่มสินทรัพย์ในปริมาณที่เท่ากันธนาคารพาณิชย์ขนาด กลางจะมีต้นทุนรวมที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ประกอบกับในขณะนี้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งให้ความสำคัญกับระบบธนาคารอีเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีการลงทุนสูงในอุปกรณ์ เครื่องมือทางการเงิน ระบบที่สร้างความปลอดภัย และทันสมัย ซึ่งสินทรัพย์ทุนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทดแทนแรงงานในระยะยาวได้เป็นอย่างดีดังนั้นจากการศึกษานี้จึงเป็นแนวทางในการกำหนด ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนของธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม ธนาคารพาณิชย์ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวได้ |
รายละเอียดเพิ่มเติม: |
วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 |
หัวเรื่องมาตรฐาน: | เงินฝากธนาคาร -- ไทย
การตลาดธนาคาร -- ไทย |
ประเภททรัพยากร: | วิทยานิพนธ์ |
ความยาว: | 82 แผ่น |
ชนิดของสื่อ: | Text |
รูปแบบแฟ้มข้อมูล: | application/pdf |
ภาษา: | tha |
สิทธิในการใช้งาน: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5331 |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้ (CONTENT) |
|
ดู ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|