การประยุกต์ของทฤษฎีเศษเหลือของจีนและโครงสร้างต้นไม้ในการสื่อสารแบบกลุ่มด้วยการเข้ารหัสลับตามเทคนิควิธี NTRU
by แวววรรณ จันทร์ชูกลิ่น
Title: | การประยุกต์ของทฤษฎีเศษเหลือของจีนและโครงสร้างต้นไม้ในการสื่อสารแบบกลุ่มด้วยการเข้ารหัสลับตามเทคนิควิธี NTRU |
Other title(s): | An application of chinese remainder theorem and tree on NTRU based group-oriented encryption |
Author(s): | แวววรรณ จันทร์ชูกลิ่น |
Advisor: | พิพัฒน์ หิรัณย์วณิชชากร, อาจารย์ที่ปรึกษา |
Degree name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ) |
Degree level: | ปริญญาโท |
Degree discipline: | สถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ |
Degree department: | คณะสถิติประยุกต์ |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2012 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การเข้ารหัสลับแบบกลุ่ม ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการส่งข้อมูลเพียงคร้ังเดียว ให้กับผู้รับปลายทางพร้อมกัน รูปแบบที่ อาศัยเทคนิควิธีการเข้ารหัสกุญแจกลุ่มแบบกุญแจสมมาตร (Symmetric Key Encryption) จําเป็นต้องอาศัยช่องทางที่ปลอดภัยเพื่อส่งกุญแจส่วนตัวระหว่างกัน จึงมีการวิจัยที่ส่งข้อมูลแบบกลุ่ม โดยเทคนิควิธีการเข้ารหัสแบบกุญแจอสมมาตร (Asymmetric Key Encryption) เพื่อแกปัญหาการส่งกญแจกลุ่มและยังทำใหํ สามารถให้บุคคลภายนอกกลุ่มสามารถส่ง ข้อมูล ซึ่งเป็นความลับให้แก่สมาชิกในกลุ่มได้ ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ได้จําลองการทำงานของแม่ข่ายกุญแจ (Key Server)โดยเริ่มจากกำหนดกุญแจสําหรับเข้ารหัสลับกลุ่มค่าหนึ่งนำมาเข้ารหัสลับด้วยกุญแจสาธารณะของแต่ละสมาชิกใน กลุ่มด้วยเทคนิควิธี NTRU ซึ่งเป็นวิธีการเข้ารหัสลับแบบกุญแจอสมมาตรที่มีความเร็วในการ ประมวลผลสูง แล้วนำมาหาค่าผลเฉลี่ยด้วยทฤษฎี เศษเหลือของจีน เพื่อลดจำนวนข้อความที่ต้อง แพร่ออกไปในเครือข่ายให้กับสมาชิกให้เหลือเพียงข้อความเดียว อย่างไรก็ตามในกระบวนการ คํานวณหาค่าผลเฉลี่ยนั้นจะต้องมีการคำนวณค่าผกผัน (Inverse) ของสมาชิกทั้งหมดซึ่งทำให้ต้อง เสียเวลามากในกรณีที่สมาชิกในกลุ่มมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงประยุกต์ ใช้โครงสร้างต้นไม้มาช่วยจัดการค่าผกผันของสมาชิกเพื่อช่วยลดเวลาในการคำนวณ เมื่อต้องกำหนดกุญแจหรือเปลี่ยน กุญแจกลุ่มค่าใหม่ โดยประสิทธิภาพของแนวคิดการนําโครงสร้างต้นไม้มาประยุกต์นั้น เมื่อวิเคราะห์กระบวนการทำงานและทดสอบด้วยการจำลองการทำงานของแม่ข่ายกุญแจ พบว่า ประสิทธิภาพที่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ สามารถลดเวลาที่ต้องสูญเสียไปในการคำนวณหาค่าผกผันทุกคร้ังที่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในกลุ่มสื่อสารลงได้ |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (สถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2012 |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 54 แผ่น ; 30 ซม. |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/535 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|