แนวทางการส่งเสริมการจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ กรณีศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี
by วิภาพรรณ เพียรแย้ม
Title: | แนวทางการส่งเสริมการจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ กรณีศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี |
Other title(s): | Guidelines for management of recyclable waste: a case study of Nonthaburi Municipality |
Author(s): | วิภาพรรณ เพียรแย้ม |
Advisor: | วิสาขา ภู่จินดา |
Degree name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | Master's |
Degree discipline: | การจัดการสิ่งแวดล้อม |
Degree department: | คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2016 |
Digital Object Identifier (DOI): | 10.14457/NIDA.the.2016.56 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การวิจันี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจยัที่มีความสัมพนัธ์กับการจัดการขยะที่สามารถนำกลับ มา ใช้ใหม่ได้(Recyclable Waste) ของเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี รวมถึงเสนอแนวทางการจัดการ ขยะที่สามารถนำกลับ มาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณร่วมกับการ วิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งทำการศึกษาโดยใช้แบบสอบถามพฤติกรรมการจัดการขยะภายในครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่างครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนนทบุรีจำนวน 306 ครัวเรือน ด้วยวิธีการสุ่มแบบมี ระบบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมวิเคราะห์ทางสถิติสำเร็จรูปที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 95 ร่วมกับการศึกษาบทบาทของเทศบาลนครนนทบุรีและสถานประกอบการรับซื้อขยะรีไซเคิลในเขต เทศบาลนครนนทบุรีที่มีต่อการจัดการขยะ โดยใช้แบบสัมภาษณ์ร่วมกับแบบสังเกตการณ์ใช้สถิติ เชิงพรรณนา ได้แก่จำนวน ร้อยละค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ t-test และ F-test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 พบว่า กลุ่มครัวเรือนตัวอย่างเกินกว่ากึ่งหนึ่ง มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการขยะอยู่ในระดับสูง (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.86)และมีพฤติกรรมในการจัดการขยะอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.98) ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะ ประเภทขวดพลาสติกกระดาษ ลังกระดาษ และขวดแก้ว คิดเป็นร้อยละ 70.3, 60.8, 60.5และ 60.1 ตามลำดับ ของการคัดแยกขยะทั้งหมด ซึ่งขยะดังกล่าวเป็นขยะที่สามารถจำหน่ายได้ง่าย มีรถรับซื้อ ถึงที่ ขณะที่ขยะประเภทอื่นๆที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ไดนั้น ไม่มีสถานที่รับซื้อครัวเรือนส่วนใหญ่จึงใช้วิธีการทิ้งรวมกับขยะอื่นๆ โดยไม่มีการคัดแยกเนื่องจากครัวเรือนไม่มีแรงจูงใจในการ คัดแยกและจากการสังเกตการณ์ พบว่า วิธีการจัดเก็บขยะของทางเทศบาลเป็นวิธีการเก็บขนแบบ รวม จึงไม่มีความจำเป็นในการคัดแยก ซึ่งปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการคัดแยกขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ของครัวเรือนนั้นคือระดับการศึกษา รายได้และความรู้ความเข้าใจต่อการจัดการขยะที่สามารถนา กลับมาใช้ใหม่ได้ในส่วนของปัจจยัอื่นที่ส่งผลต่อการคัดแยกขยะที่สามารถนำกลับ มาใช้ใหม่ของครัวเรือน ได้แก่ผลตอบแทนที่ได้รับ ข้อจำกัดของพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บขยะ เพื่อรอการจำหน่ายและช่องทางการจำหน่ายที่สะดวก มีรถรับซื้อถึงที่ ดังนั้น แนวทางการส่งเสริม การจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่จึงควรสร้างความร่วมมือ ระหว่าง 3 ภาคส่วน โดย เทศบาลฯควรมีการรณรงคให้ค้วามรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะที่ถูกวิธีเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บขยะ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการคัดแยกรวมถึงเป็นศูนยก์ลางในการสร้างความร่วมมือ กับ ภาคเอกชน (สถานประกอบการรับซื้อขยะรีไซเคิล) ในการเพิ่มช่องทางและประเภทของขยะที่ รับซื้อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดความร่วมมือในการจดัการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 |
Subject(s): | การจัดการขยะ -- นนทบุรี
ขยะ -- ไทย -- นนทบุรี -- การจัดการ ขยะ -- การนำกลับมาใช้ใหม่ |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 160 แผ่น |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5354 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|