การรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อเสริมสร้างความทุ่มเทมีใจของพนักงานส่วนหน้า (Employee engagement) ของอุตสาหกรรมโรงแรมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานโรงแรมที่ส่งผลต่อการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำ งานในธุรกิจโรงแรมเขตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาการรับรู้ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความสัมพันธ์กับความทุ่มเทมีใจของพนักงานโรงแรม (Employee Engagement) ในเขตกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีอิทธิพล ทำให้เกิดความทุ่มเทมีใจของพนักงานโรงแรม (Employee Engagement) ในเขตกรุงเทพมหานคร 4) เพื่อเสนอแนะแนวทางการเสริมสร้างความทุ่มเทมีใจของพนักงานโรงแรม (Employee Engagement) ใน เขตกรุงเทพมหานครโดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวจิยั คือ พนักงานของธุรกิจโรงแรมระดับ 3 ดาว ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 157 คน จากน้ันนำแบบสอบถามที่เก็บรวบรวมได้จำนวน 157 ฉบับมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยายและการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่าง (t-test) , (f-test) วิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณเชิงเส้น (Multiple Linear Regression) ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ตำแหน่งที่ปฏิบัติงาน และระยะเวลาใน การปฏิบัติงานที่ต่างกัน มีความเห็นต่อปัจจัยด้านการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานว่าจะส่งผลต่อ ความทุ่มเทมีใจของพนักงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วน เพศ สถานภาพ ระดับการศึกษาความเกี่ยวข้องกับ สาขาวิชาการโรงแรม รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่แตกต่างกัน 2) การรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงาน มีความสัมพนัธ์ในระดับค่อนข้างสูงกับความทุ่มเทมีใจของ พนักงานส่วนหน้า (Employee Engagement) ในธุรกิจโรงแรมเขตกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 3) การรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านความเกี่ยวข้องกับการทำงาน ความมั่นคงปลอดภัยและโครงสร้างระเบียบและการสั่งงานขององค์การ ตามลำดับ มีอิทธิพลทางบวกต่อความทุ่มเทมีใจของพนักงานส่วนหน้า (Employee Engagement) ในธุรกิจ โรงแรมเขตกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อธุรกิจโรงแรม 3 ดาวในเขต กรุงเทพมหานคร 4)แนวทางเสริมสร้างความทุ่มเทมีใจผ่านการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงาน ผ่านการเสริมสร้างปัจจัยการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานด้านเกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นอันดับแรก ตามด้วยการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเป็นลำดับ รองลงมา และการรับรู้สภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านโครงสร้างระเบียบและการสั่งงานขององค์การ เป็นลำดับสุดท้าย ตามความสะดวกด้านงบประมาณหรือปัจจัยอื่นๆ ขององค์การ