การศึกษาเชิงเปรียบเทียบความยั่งยืนทางธุรกิจในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก : กรณีศึกษาองค์การธุรกิจในประเทศไทย
by วรรณฉัตร กิจเกษมสิน
Title: | การศึกษาเชิงเปรียบเทียบความยั่งยืนทางธุรกิจในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก : กรณีศึกษาองค์การธุรกิจในประเทศไทย |
Other title(s): | Comparative study of corporate sustainability in proactive environmental management : the case study of business organization in Thailand |
Author(s): | วรรณฉัตร กิจเกษมสิน |
Advisor: | ภัคพงศ์ พจนารถ |
Degree name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | Master's |
Degree discipline: | การจัดการสิ่งแวดล้อม |
Degree department: | คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2021 |
Digital Object Identifier (DOI): | 10.14457/NIDA.the.2021.25 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาพรวมของระดับความสามารถในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการศึกษาเชิงเปรียบเทียบของกระบวนการในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การธุรกิจ โดยใช้กรณีศึกษาองค์การธุรกิจ 2 กลุ่ม อันได้แก่ กลุ่มองค์การธุรกิจที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 7 กลุ่มธุรกิจ (SET) และกลุ่มองค์การธุรกิจภาคอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง (MAPTAPHUT) เป็นการศึกษาปัจจัยด้านองค์การ จำนวน 7 ปัจจัย และปัจจัยด้านกระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อม จำนวน 13 ปัจจัย และ 88 ประเด็นย่อย ที่มีผลต่อระดับความสามารถในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในองค์การ เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติจากแบบสอบถามแบบปลายปิด และการค้นคว้าศึกษาจากเอกสาร ใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่างกลุ่มองค์การธุรกิจที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 101 บริษัท จาก 596 บริษัท ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2560 และ จำนวนกลุ่มองค์การธุรกิจภาคอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง 31 บริษัท จาก 112 บริษัท ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2561
ผลการศึกษาพบว่า ระดับความสามารถในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในภาพรวมของ SET อยู่ในระดับที่สูง กลุ่มของ SET ที่มีระดับความสามารถสูงที่สุด คือ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) และกลุ่มที่มีระดับความสามารถต่ำที่สุด คือ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม (SET_INDUS) มีระดับความสามารถในการจัดการสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของทุกกลุ่มกลุ่มธุรกิจ สามารถเป็นตัวแทนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ในขณะที่ MAPTAPHUT มีระดับของความสามารถในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในองค์การธุรกิจอยู่ในระดับที่สูงและมีค่าคะแนนสูงกว่า SET แต่ยังน้อยกว่า AGRO
ด้านปัจจัยด้านองค์การ SET ให้ความสำคัญกับการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนและการรายงานผลการดำเนินงานสิ่งแวดล้อม เป็นอันดับแรกๆ ในขณะที่การดำเนินงานตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการไหลของวัสดุเป็นอันดับรองลงมา และมีระดับการให้ความสำคัญที่ไม่ต่างกันมาก ในส่วนของ MAPTAPHUT ให้ความสำคัญกับการรายงานผลการดำเนินงานสิ่งแวดล้อมเป็นลำดับแรก ในขณะที่การให้ความสำคัญกับการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน การนำระบบมาตรฐานมาใช้และการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการไหลของวัสดุ เป็นอันดับรองลงมา ในด้านการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการวิจัยและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง SET และ MAPTAPHUT ยังมีการให้ความสำคัญอยู่น้อย แต่อย่างไรก็ตามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้น
สำหรับปัจจัยด้านกระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อม พบว่า ทั้ง SET และ MAPTAPHUT ให้ความสำคัญมากที่สุดในเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม และเรื่องค่านิยมบรรทัดฐานขององค์การด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับเรื่องที่ให้ความสำคัญน้อยที่สุด ทั้ง SET และ MAPTAPHUT ได้แก่ เรื่องความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ในด้านสิ่งแวดล้อม และเรื่องการจัดทำบัญชีการบริหารด้านสิ่งแวดล้อม เหมือนกัน ปัจจัยเรื่องการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพบว่า MAPTAPHUT ให้ความสำคัญอยู่ในระดับน้อยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในระดับประเด็นย่อย พบว่ากลุ่มบริษัทฯ ของทั้ง SET และ MAPTAPHUT ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในระดับสูงสุดและต่ำสุด โดยกลุ่มที่มากที่สุด คือ ผู้บริโภคและชุมชน ส่วนกลุ่มที่น้อยที่สุด คือ สหภาพแรงงาน และ NGO
ผลการศึกษาเชิงเปรียบเทียบด้วยวิธีการหาค่าอัตราส่วนเปรียบเทียบ (Ratio) พบว่า ค่าเฉลี่ยแสดงระดับความสามารถของ MAPTAPHUT มีสัดส่วนของค่าคะแนนเฉลี่ยที่สูงกว่าของ SET และ SET_INDUS คิดเป็นระดับปัจจัยร้อยละ 92 และ 81 ของทั้งสองกลุ่มการศึกษา ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม การทดสอบทางสถิติแบบ T-Test Independent ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ในการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของผลการศึกษาในระดับประเด็นย่อยจำนวนทั้งสิ้น 88 ประเด็นย่อย พบว่า ทั้งการเปรียบเทียบของ MAPTAPHUT กับ SET และ SET_INDUS ไม่มีความแตกต่างกันเลยถึง ร้อยละ 75 และ 85 ตามลำดับ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95
จากผลการศึกษาทั้งหมดของการศึกษานี้สรุปได้ว่า การจัดการสิ่งแวดล้อมในภาพรวมของ SET และ MAPTAPHUT มีแนวโน้มอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด หรือเรียกว่าการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เป็นระดับเชิงรุก (Proactive Environmental Management) ได้ ด้วยระดับความสามารถของกระบวนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสูง แต่อย่างไรก็ตามค่าคะแนนเฉลี่ยที่สูงกว่าของ MAPTAPHUT สามารถอธิบายได้ว่า การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง (MAPTAPHUT) อาจจะมีแรงกดดันทางด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่จับตามากกว่าการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งเป็นเหตุผลมาจาก การเป็นเขตควบคุมมลพิษ ปัญหามลพิษและสุขภาพประชาชน อุบัติเหตุและอุบัติภัยในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และบทบาทการมีส่วนร่วมของประชาชน องค์การธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง จึงให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์การในระดับที่สูงกว่ากลุ่มองค์การธุรกิจในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้งในภาพรวม (SET) และธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภทสินค้าอุตสาหกรรม (SET_INDUS) |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2564 |
Subject(s): | การจัดการสิ่งแวดล้อม
องค์กรธุรกิจ |
Keyword(s): | e-Thesis
ความยั่งยืนทางธุรกิจ |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 405 แผ่น |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5547 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|