dc.contributor.advisor | สากล จริยวิทยานนท์ | th |
dc.contributor.author | เมธาวี บุญพิทักษ์ | th |
dc.date.accessioned | 2022-06-02T06:30:11Z | |
dc.date.available | 2022-06-02T06:30:11Z | |
dc.date.issued | 2017 | th |
dc.identifier.other | b201164 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5864 | th |
dc.description.abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในชุมชนอันเนื่องมาจาก
การพัฒนาอุตสาหกรรมในอ าเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา 2) ศึกษาความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุ
ในชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้เขตนิคมอุตสาหกรรมและชุมชนที่ตั้งอยู่ห่างจากเขตนิคมอุตสาหกรรม และ
3) วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมต่อความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุในชุมชน
วิธีการศึกษาใช้แนวทางการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research Approach) ท าการรวบรวม
ข้อมูลด้วยกรณีศึกษา (Case Study) และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-participant
Observation) การสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ(Informal Interview) กับผู้ให้ข้อมูลที่ส าคัญ
(Key Informant) การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
การจัดหมวดหมู่ (Typology) การสังเคราะห์(Synthesis) และการตีความ (Interpretation | th |
dc.description.abstract | ผลการวิจัยพบว่าเดิมพื้นที่อำเภอแปลงยาวเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่การตั้งนิคม
อุตสาหกรรมขึ้นมาในพื้นที่ตำบลหัวสำโรงได้ส่งผลให้พื้นที่ชุมชนโดยรอบบริเวณตำบลหัวสำโรงมีการ
พัฒนาไปสู่การเป็นชุมชนเมือง มีการซื้อขายที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการขยายตัว
ของเมืองและการเก็งกำไรในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ พื้นที่ใช้สอยในครัวเรือนลดจำนวนลง
ลักษณะครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้นมีแรงงานต่างถิ่นเข้ามาพักอาศัยภายในชุมชนจำนวน
มาก สมาชิกวัยแรงงานในครัวเรือนส่วนมากเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่ตำบลหนองไม้
แก่นสมาชิกวัยแรงงานในชุมชนยังคงอยู่ในภาคเกษตรกรรมมีวิถีการดำเนินชีวิตแบบชนบท ใช้ชีวิต
แบบเรียบง่ายที่ดินในตำบลหนองไม้แก่นเป็นพื้นที่ในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ทำให้
ชาวบ้านในชุมชนเข้าถึงทรัพยากรในการดำรงชีพได้มากแม้ลักษณะครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยวมาก
ขึ้นเช่นเดียวกับในชุมชนหัวสำโรง แต่มีลักษณะการอยู่อาศัยโดยแยกไปสร้างบ้านหลังใหม่ แต่ยังอย | th |
dc.description.abstract | ในละแวกเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่แตกต่างกันในชุมชนที่ศึกษานี้ส่งผลให้ความอยู่ดีมีสุข
ของผู้สูงอายุระหว่างชุมชนมีความแตกต่างกัน | th |
dc.description.abstract | ผลการวิเคราะห์ความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุในทั้งสองชุมชน พบว่า มีการให้ความหมายของ
ความอยู่ดีมีสุขหรือสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการอยากจะเป็นใกล้เคียงกัน คือ การได้รับความรักความเอาใจใส่
จากบุตรหลาน การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับญาติ เพื่อนบ้าน รวมทั้งคนในชุมชน การมีสุขภาพร่างกายดี
การมีรายได้ที่เพียงพอกับการครองชีพ และการมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต ในขณะที่สภาพความเป็นอยู่
ในปัจจุบันมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่าง 2 ชุมชน การบรรลุถึงความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุใน 2
ชุมชนนี้จึงมีความแตกต่างกันด้วย กล่าวคือ ผู้สูงอายุในตำบลหนองไม้แก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างจาก
นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ มีการบรรลุถึงความอยู่ดีมีสุขได้มากกว่าผู้สูงอายุในตำบลหัวสำโรงซึ่งอยู่
ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ เพราะสามารถเข้าถึงและมีกระบวนการแปลงทรัพยากรที่มีอยู่
เพื่อการดำรงชีพ อันนำไปสู่การบรรลุถึงความอยู่ดีมีสุขได้มากกว่า | th |
dc.description.abstract | การพัฒนาอุตสาหกรรมส่งผลอย่างชัดเจนต่อการเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำเนินชีวิตและความ
อยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุในชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างกันกับในชุมชนที่อยู่ห่างจาก
นิคมอุตสาหกรรม โดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการเข้าถึงทรัพยากรด้านต่างๆ วิถีการดำรงชีพของสมาชิก
ครอบครัวและผู้สูงอายุ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างสำคัญ | th |
dc.description.abstract | การพัฒนาอุตสาหกรรมส่งผลอย่างชัดเจนต่อการเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำเนินชีวิตและความ
อยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุในชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างกันกับในชุมชนที่อยู่ห่างจาก
นิคมอุตสาหกรรม โดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการเข้าถึงทรัพยากรด้านต่างๆ วิถีการดำรงชีพของสมาชิก
ครอบครัวและผู้สูงอายุ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างสำคัญ | th |
dc.description.abstract | ข้อเสนอแนะที่สำคัญจากการวิจัยครั้งนี้ คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้านผู้สูงอายุ
ควรร่วมกับชุมชนทำการรณรงค์เพิ่มค่านิยมให้สมาชิกในครัวเรือนและชุมชนได้ตระหนักถึง
ความสำคัญของผู้สูงอายุในครัวเรือน ทั้งในแง่ของการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีและการนำ
ประสบการณ์ของผู้สูงอายุมาใช้ประโยชน์ในชุมชน อันจะช่วยเสริมสร้างความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุ
ต่อไป | th |
dc.description.provenance | Submitted by Chitjai Singhapong (chitjai.s@nida.ac.th) on 2022-06-02T06:30:11Z
No. of bitstreams: 1
b201164.pdf: 2298853 bytes, checksum: 9456e7a81ad179e3c9754681d7e144d4 (MD5) | th |
dc.description.provenance | Made available in DSpace on 2022-06-02T06:30:11Z (GMT). No. of bitstreams: 1
b201164.pdf: 2298853 bytes, checksum: 9456e7a81ad179e3c9754681d7e144d4 (MD5)
Previous issue date: 2017 | th |
dc.format.extent | 116 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณพิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject | การสูงวัยของประชากร | th |
dc.subject.other | การพัฒนาอุตสาหกรรม -- ฉะเชิงเทรา -- แปลงยาว | th |
dc.title | ความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุกับการพัฒนาอุตสาหกรรมในอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา | th |
dc.title.alternative | The Well-Being of Elderly People and Industrial Development in Plaeng Yao District, Chachoengsao Province | th |
dc.type | Text | th |
mods.genre | วิทยานิพนธ์ | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | th |
thesis.degree.level | Master's | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.department | คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม | th |