การใช้จารีตประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศึกษากรณีการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
Files
Publisher
Issued Date
2017
Issued Date (B.E.)
2560
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
254 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b198268
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
กิตติศักดิ์ หนูชัยแก้ว (2017). การใช้จารีตประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศึกษากรณีการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6052.
Title
การใช้จารีตประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศึกษากรณีการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
Alternative Title(s)
The use of traditional administrative system in the democratic regime according to the provisions of constitution: a study of how to become a prime minister
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญใช้บังคับแก่
กรณีการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และศึกษาถึงกระบวนการของการนำจารีตประเพณีการ
ปกครองประเทศไทยมาใช้ โดยศึกษาว่าองค์กรใดเป็นองค์กรผู้มีอำนาจในการใช้ และศึกษาว่าองค์กร
นั้นมีวิธีการในการใช้อย่างไร ตลอดจนศึกษาถึงองค์กรผู้มีอำนาจในการตีความและวินิจฉัย การนำ
จารีตประเพณีการปกครองประเทศไทยมาใช้ในการอุดช่องว่างของรัฐธรรมนูญ ในการเข้าสู่ตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี
โดยวิธีการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ และการศึกษาเชิงประวัติศาสตร์กฎหมาย โดย
การดำเนินการวิจัยรวบรวมเอกสารต่าง ๆ เป็นการศึกษาถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองการปกครอง
บริบททางสังคม โดยมีเอกสารที่เกี่ยวช้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่น และประเทศ
อังกฤษ บทบัญญัติกฎหมาย หนังสือ คำพิพากษาของศาลไทย และบทความภาษาไทย ตลอดจนการ
สัมภาษณ์บุคคลสำคัญและผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาประกอบการวิจัยเป็นข้อมูลในการ
วิเคราะห์การใช้จารีตประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปตยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศึกษา
กรณีการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผลการศึกษาพบว่า หากเกิดกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีการเข้าสู่
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่สามารถดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีได้ตามกลไกของรัฐธรรมนูญใน
สถานการณ์ปกติ ตามมาตรา 158 และมาตรา 159 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย
(พุทธศักราช 2560) และเกิดที่กรณีคณะรัฐมนตรีรักษาการทั้งคณะลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ใน
ระยะเวลาที่มีการยุบสภาหรืออายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง หรือเกิดกรณีมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้วไม่
สามารถจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และทั้งสองกรณีต้องเกิดกรณีที่
ปลัดกระทรวงไม่สามารถดำเนินการเลือกปลัดกระทรวงคนใดคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้
กรณีเช่นนี้จึงอาจจะถือว่าไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญโดยตรงช้บังคับแก่กรณีได้ ถือว่าเป็น "ช่องว่างโดยแท้ทางรัฐธรรมนูญ" จึงมีเหตุและเงื่อนไขอันนำไปสู่การนำประเพณีการปกครองประเทศไทยใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามบทบัญญัติของมาตรา 5 รัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย (พุทธศักราช 2560) มาอุดช่องว่างทางรัฐธรรมนูญเพื่อปรับใช้ในให้มี
นายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งในนำมาปรับใช้นั้นต้องมีกระบวนการในการนำมาใช้โดยต้องประกอบด้วยเงื่อนไข
สองประการ กล่าวคือ ประการแรก องค์กรผู้มีอำนาจในการใช้จารีตประเพณีการปกครองประเทศ
ไทยนั้น คือ พระมหากษัตริย์ และประการที่สอง การนำมาใช้ตามวิธีการ ซึ่งประกอบด้วยหลักเกณฑ์
สามประการ คือ 1. การนำมาใช้เมื่อเกิดกรณีที่เป็นช่องว่างทางรัฐธรรมนูญ 2. การนำมาใช้ตาม
ขอบเขตของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 3. การนำมาใช้ตามขอบเขตของจารีตประเพณีการปกครอง
นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่ได้กำหนดให้องค์กรใดเป็นองค์กร
พิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องนี้ จึงเห็นว่า อำนาจในการวินิจฉัยเรื่องนี้ควรอยู่ที่ "ศาล
รัฐธรรมนูญ" ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นข้อพิพาทที่เกี่ยวเนื่องกับแนวปฏิบัติในทางรัฐธรรมนูญจึงถือว่าเป็น
อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการคลี่คลายปัญหาทาง
รัฐธรรมนูญตามภารกิจของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นกลไกในยามวิกฤตที่จะเป็นทางออกให้กับ
ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างสงบสันติ
ดังนั้น การนำจารีตประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาอุดช่องว่างของ
รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีได้นั้น นอกจากเป็นไปตามแนวทางที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น เห็น
ควรเสนอแนวทางเพิ่มเติมดังนี้ 1. การนำจารีตประเพณีการปกครองประเทศไทยมาอุดช่องว่างนั้น ให้
มีวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีได้ 2. ให้มีบทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
เพียงองค์กรเดียวเข้ามาตีความและวินิจฉัยชี้ขาด 3. คุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นั้นต้องมีคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายของประเทศ และ 4. การใช้จารีตประเพณีการ
ปกครองในเรื่องนี้ เห็นควรจะนำความกราบบังคมทูลฯ ให้พระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจตาม
ประเพณีการปกครอง แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560