การประเมินผลการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
Files
Publisher
Issued Date
2018
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
263 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
b203182
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ริญญาภัทร์ ภูวโรจน์พิบูล (2018). การประเมินผลการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6105.
Title
การประเมินผลการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
Alternative Title(s)
An evaluation of public participation in environmental impact assessment : a case study of the construction project of double track railway on Surat Thani-Hat Yai Junction-Songkhla Route
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
งานวจิยัคร้ังน้ีเป็นงานวจิยัเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อประเมินประสิทธิผลและเสนอแนวทางในการ
พัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีศึกษา
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา โดยเก็บรวบรวมข้อมูล
จากการสัมภาษณ์แบบเชิงลึกกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ ประกอบด้วยประชาชนและ
ผู้นำชุมชนในพื้นที่โครงการ หน่วยงานราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น เจ้าของโครงการ
บริษัทที่ปรึกษา นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม และองค์การพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 75คน
ร่วมกับการสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องจากนั้น นำข้อมูลมาเรียบเรียง
และวิเคราะห์เนื้อหา ด้วยการวิเคราะห์แบบ 3 เสาร์ เพื่อหาข้อสรุปที่มีความเหมาะสมและก่อให้เกิด
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ผลการศึกษา การประเมินผลการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ตามกรอบ CIPP-I Model พบว่า พื้นที่โครงการอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยแนว เส้นทางพาดผ่านพื้นที่รวม 4 จังหวัด มีระยะทางรวมท้ังสิ้น 321 กิโลเมตร ซึ่งสอดคล้องกับ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยเพื่อให้ระบบรางเป็นทางเลือกหลักใน การเดินทางและขนส่งสินค้าที่สะดวก ประหยัด และปลอดภัยในส่วนของการดำเนินงานตาม กฎหมายพบว่า โครงการมีการจดักระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับงบประมาณมีความเหมาะสมเพียงพอในช่วงดำเนินการศึกษาออกแบบ แต่ในช่วงก่อน
ดำเนินการก่อสร้างงบประมาณที่จัดสรรไว้ไม่เพียงพอ ควรมีการจัดสรรงบประมาณในส่วนของการ มีส่วนร่วมและประชาสัมพนัธ์ให้เพียงพอ สำหรับการเข้าไปให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่อ ประชาชนอีกคร้ังก่อนดำเนินการก่อสร้างและบุคลากรในการดำเนินงานมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ สามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ผู้ดำเนินโครงการได้ประชาสัมพันธ์ โครงการให้ประชาชนไดรับทราบตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเขา้ใจ ในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงเจ้าของโครงการมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ โครงการอย่างเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและยอมรับโครงการ โดยไม่ก่อให้เกิด การคัดค้านหรือความขัดแย้ง นอกจากนี้ยังพบว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความตระหนักถึงความสำคัญ ของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับข้อเสนอแนะในการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นน้ัน ภาครัฐจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีสอดคล้องกับบริบทและ สภาพแวดล้อมในปัจจุบันเนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น เป็นกฎหมายที่มีการประกาศใช้มาเป็นเวลานานบางประเด็นจึง อาจไม่เหมาะสม และที่สำคัญ เจ้าของโครงการต้องเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน แสดงถึงความ จริงใจและความโปร่งใสจนสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและยอมรับ โครงการ โดยไม่ก่อใหเ้กิดการคัดค้านหรือความความขัดแย้ง
ผลการศึกษา การประเมินผลการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ตามกรอบ CIPP-I Model พบว่า พื้นที่โครงการอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยแนว เส้นทางพาดผ่านพื้นที่รวม 4 จังหวัด มีระยะทางรวมท้ังสิ้น 321 กิโลเมตร ซึ่งสอดคล้องกับ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยเพื่อให้ระบบรางเป็นทางเลือกหลักใน การเดินทางและขนส่งสินค้าที่สะดวก ประหยัด และปลอดภัยในส่วนของการดำเนินงานตาม กฎหมายพบว่า โครงการมีการจดักระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับงบประมาณมีความเหมาะสมเพียงพอในช่วงดำเนินการศึกษาออกแบบ แต่ในช่วงก่อน
ดำเนินการก่อสร้างงบประมาณที่จัดสรรไว้ไม่เพียงพอ ควรมีการจัดสรรงบประมาณในส่วนของการ มีส่วนร่วมและประชาสัมพนัธ์ให้เพียงพอ สำหรับการเข้าไปให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่อ ประชาชนอีกคร้ังก่อนดำเนินการก่อสร้างและบุคลากรในการดำเนินงานมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ สามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ผู้ดำเนินโครงการได้ประชาสัมพันธ์ โครงการให้ประชาชนไดรับทราบตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเขา้ใจ ในกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงเจ้าของโครงการมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ โครงการอย่างเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและยอมรับโครงการ โดยไม่ก่อให้เกิด การคัดค้านหรือความขัดแย้ง นอกจากนี้ยังพบว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความตระหนักถึงความสำคัญ ของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับข้อเสนอแนะในการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นน้ัน ภาครัฐจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีสอดคล้องกับบริบทและ สภาพแวดล้อมในปัจจุบันเนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น เป็นกฎหมายที่มีการประกาศใช้มาเป็นเวลานานบางประเด็นจึง อาจไม่เหมาะสม และที่สำคัญ เจ้าของโครงการต้องเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน แสดงถึงความ จริงใจและความโปร่งใสจนสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและยอมรับ โครงการ โดยไม่ก่อใหเ้กิดการคัดค้านหรือความความขัดแย้ง
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2561