dc.contributor.advisor | วิวัฒน์ชัย อัตถากร | th |
dc.contributor.author | แก้วบุญเกื้อ ศรีลิขิตตานนท์ | th |
dc.date.accessioned | 2023-01-11T03:53:32Z | |
dc.date.available | 2023-01-11T03:53:32Z | |
dc.date.issued | 2017 | |
dc.identifier | b203179 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6135 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (รอ.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560 | |
dc.description.abstract | การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ วิเคราะห์การรับรู้หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิด
เศรษฐกิจบุญนิยมของชาวอโศก พร้อมท้งัศึกษาการปฏิบัติตนในเศรษฐกิจชุมชน ตามหลักคิด
เศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิดเศรษฐกิจบุญนิยมที่ราชธานีอโศก นอกจากน้ียงัเสนอแนะการ
ประยุกต์ต่อธุรกิจชุมชนและต่อนโยบายสาธารณะที่มีผลต่อประชาชนท้ังสังคมไทย เป็นการวิจัย
แบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) ระหว่างงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
และเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงจ านวน 7คน ในการวิจัยเชิงคุณภาพ สำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ
นั้นดำเนินการวิจัยโดยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างเป็นสมาชิกชุมชนราช
ธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีสถานะเป็นฆราวาส และไม่ใช่นักเรียน จำนวน 166คน จาก
จำนวนประชากร 284คน (สำรวจล่าสุด ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2559) | th |
dc.description.abstract | ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อายุมากที่สุดอยู่ในช่วง
56ถึง65 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี อาศัยอยู่ในชุมชนราชธานีอโศก เป็นสมาชิกชุมชนราช
ธานีอโศก 1ถึง 5 ปี สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ได้รับค่าตอบแทน จึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ถึงแม้ว่า
สมาชิกส่วนใหญ่จะไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ที่พักอาศัย
อาหาร ค่ารักษาพยาบาล ทุนการศึกษาในระดับปริญญา และสมาชิกส่วนใหญ่ไมม่ ีหน้ีสินเลยจากการ
วิจัยพบว่า | th |
dc.description.abstract | 1) สำหรับการรับรู้หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิดเศรษฐกิจบุญนิยมนั้น ผู้ตอบ
แบบสอบถามมีระดับการรับรู้หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงในระดับมากที่สุด และ เห็นว่าคนไทย
โดยทั่วไปยังมีความเข้าใจและปฏิบัติตนตามหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงในระดับน้อยอยู่นอกจากนี้
พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับการรับรู้หลักคิดเศรษฐกิจบุญนิยมในระดับมากที่สุด สอดคล้อง | th |
dc.description.abstract | กับผลการวิจัยเชิงคุณภาพระบุว่า ชาวราชธานีอโศกมีการรับรู้หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิด
เศรษฐกิจบุญนิยมในระดับมากโดยท้ัง 2 หลักคิดมีความสอดคล้องกันที่เป้าหมาย แนวคิด และ
หลักการปฏิบัติ
2) ส่วนด้านการปฏิบัติตนในเศรษฐกิจชุมชนพบว่า สมาชิกราชธานีอโศกมีการปฏิบัติตน
ในเศรษฐกิจชุมชนตามหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจบุญนิยมซ่ึงยึดมนั่ ในศีลธรรมตาม
แนวทางพุทธศาสนาในระดับมากที่สุด เช่นเดียวกับผลการวิจัยเชิงคุณภาพระบุว่า ชาวราชธานีอโศก
มีการปฏิบัติตนตามหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิดเศรษฐกิจบุญนิยมอย่างชัดเจน | th |
dc.description.abstract | 3) ในส่วนของความคิดเห็นต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่ารัฐบาลปัจจุบันได้มีการน าหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ประยุกต์ใช้ในการนำนโยบายไปปฏิบัติน้อยมาก แม้จะกล่าวถึงหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่าง
ต่อเนื่องแต่รัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง ซึ่งมีสาเหตุหลาย
ประการ เช่น ขาดความเข้าใจในหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถ่องแท้ ความเชื่อที่ว่ามีหลักคิดอื่นที่
สามารถประยุกต์ใช้กับสังคมไทยได้ดีกว่าหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งผลการวิจัยเชิงคุณภาพระบุ
ว่า หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นหลักในการพัฒนาประเทศได้อย่างแน่นอน โดยหลักคิดน้ี
ยึดแนวทางการบริหารแบบคนจนที่สามารถบริหารภายใต้ความขาดแคลน ซึ่งสอดคล้องกับบริบท
ของประเทศไทย ด้วยเป้าหมายการทำให้คนอยู่ดีมีสุขและลดปัญหาความเหลื่อมล้า และมุ่งพัฒนา
คนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ | th |
dc.description.abstract | ข้อเสนอแนะจากการวิจัยคร้ังน้ีสา หรับการประยุกต์หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงต่อธุรกิจ
ชุมชนและต่อนโยบายสาธารณะดังน้ีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักและเร่งศึกษาเกี่ยวกับการ
นำหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถอาศัย
ตัวแบบของชุมชนราชธานีอโศกที่ใช้หลักคิดบุญนิยมซึ่งสอดคล้องกับหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงมา
ดำเนินชีวิตจนสามารถพึ่งพาตนเองได้อีกทั้งชุมชนราชธานีอโศกยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีการปฏิบัติ
จริงผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้ทดลองปฏิบัติได้ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นชุมชนที่ยึดหลักพุทธ
เศรษฐศาสตร์ที่รัฐบาลควรให้การส่งเสริม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจชุมชนโดยเฉพาะ
เรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งด้านธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและด้านคุณธรรมจริยธรรม | th |
dc.description.provenance | Submitted by Chitjai Singhapong (chitjai.s@nida.ac.th) on 2023-01-11T03:53:32Z
No. of bitstreams: 1
b203179.pdf: 2327493 bytes, checksum: e2d18ff217c64aa64c16edd9019a4799 (MD5) | th |
dc.description.provenance | Made available in DSpace on 2023-01-11T03:53:32Z (GMT). No. of bitstreams: 1
b203179.pdf: 2327493 bytes, checksum: e2d18ff217c64aa64c16edd9019a4799 (MD5)
Previous issue date: 2017 | th |
dc.format.extent | 232 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | เศรษฐกิจชุมชน | th |
dc.title | วิเคราะห์การรับรู้และการปฏิบัติตนในเศรษฐกิจชุมชน ตามหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคิดเศรษฐกิจบุญนิยม: กรณีศึกษาชุมชนราชธานีอโศก จังหวัดอุบลราชธานี | th |
dc.title.alternative | Analyzing perception and practice in community economy in accordance with the concepts of sufficiency economy and Boon Niyom (Merit-based) economy : a case study of Ratchathani Asoke Community, Ubon Ratchathani Province | th |
dc.type | Text | th |
mods.genre | วิทยานิพนธ์ | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.name | การจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต | th |
thesis.degree.level | Master's | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.department | คณะรัฐประศาสนศาสตร์ | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.2017.91 | |