สิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ: ศึกษากรณีสิทธิในการรักษาพยาบาล
by นฤพนธ์ ทรงพระ
ชื่อเรื่อง: | สิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ: ศึกษากรณีสิทธิในการรักษาพยาบาล |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | The right to public health services of an alien : case study of the right to medical treatment |
ผู้แต่ง: | นฤพนธ์ ทรงพระ |
ผู้ควบคุมงานวิจัย: | บรรเจิด สิงคะเนติ |
ชื่อปริญญา: | นิติศาสตรมหาบัณฑิต |
ระดับปริญญา: | Master's |
คณะ/หน่วยงาน: | คณะนิติศาสตร์ |
หน่วยงานที่ประสาทปริญญา: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
วันที่เผยแพร่: | 2559 |
ตัวระบุวัตถุจิจิทัล (ดีโอไอ): | 10.14457/NIDA.the.2016.162 |
หน่วยงานที่เผยแพร่: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
บทคัดย่อ/เนื้อเรื่องย่อ: |
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสถานะแห่งสิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการ รักษาพยาบาล ปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการจัดระบบการเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาลของ คนต่างด้าว โดยมีขอบเขตของการศึกษาเฉพาะกรณีคนไร้สัญชาติแรงงานต่างด้าว เด็กต่างด้าว ผู้ลี้ภัย และผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ผลการวิจัยพบว่า สิทธิในการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาล เป็นสิทธิที่บุคคลไม่อาจบรรลุความ มุ่งหมายได้หากปราศจากการเข้ามาดําเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยรัฐ หรือที่เรียกว่า “status positivus” ซึ่งมีสถานะเป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานในการดํารงชีพ” ที่บุคคลไม่ว่าเชื้อชาติหรือสัญชาติใด หรืออยู่ ณ ที่ใดในโลก ย่อมมีความสามารถเป็นผู้ทรงสิทธินี้ได้โดยประเทศต่าง ๆ ได้ให้การรับรอง สิทธินี้ไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ และระบบกฎหมายภายในของประเทศ ดังเช่นประเทศ สหรัฐอเมริกาที่ได้รับรองสิทธินี้โดยผลของคําพิพากษาศาลสูงแห่งสหรัฐ ซึ่งวางหลักการตีความ รัฐธรรมนูญในเรื่องหลักความเสมอภาคโดยขยายความรวมถึงการรับรองสิทธินี้ให้กับคนต่างด้าวด้วย เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับรองสิทธินี้ให้แก่คนต่างด้าว ตามพันธกรณีในทางระหว่างประเทศของสหภาพยุโรป และตามกฎหมายภายในที่รัฐตราขึ้น ส่วนการ ให้ความคุ้มครองสิทธินี้จะเป็นเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อคนต่างด้าว ซึ่งแตกต่างกันไปตาม สถานะของคนต่างด้าวและบริบทของแต่ละประเทศ สําหรับประเทศไทย ไม่มีการรับรองสิทธินี้ให้แก่ คนต่างด้าวไว้อย่างชัดแจ้งในระบบกฎหมายไทย โดยปัจจุบันมีเพียงการดําเนินนโยบายของรัฐที่ขยาย ความคุ้มครองสิทธิประกันสังคมให้รวมถึงแรงงานต่างด้าว และการจัดตั้งกองทุนประกันสุขภาพของ กระทรวงสาธารณสุขขึ้น เพื่อให้คนต่างด้าวที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถเข้าถึงหลักประกัน สุขภาพ แต่ยังคงมีข้อจํากัดในเรื่องเงื่อนไขของการเป็นผู้ทรงสิทธิและกระบวนการเข้าสู่สิทธิซึ่งเป็น ปัญหาสําคัญที่ทําให้คนต่างด้าวเป็นจํานวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลได้จากผลการวิจัยดังกล่าว มีข้อเสนอแนะให้สร้างหลักประกันสุขภาพสําหรับคนต่างด้าว ภายใต้ หลักการ “ประกันสุขภาพบนพื้นฐานของการจ้างงาน” โดยผู้ที่อยู่ในระบบการจ้างงานควรจัดสรรให้ เข้าสู่ระบบประกันสังคมทั้งหมด ส่วนผู้ที่มิใช่แรงงานควรจัดสรรให้เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติโดยบัญญัติรับรองสิทธิของคนต่างด้าวไว้ในพระราชบัญญัติหลกประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2545 และรวมกองทุนประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขเข้ากับกองทุนหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติโดยมีขอบเขตการคุ้มครองเฉพาะคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศ และอยู่ภายใต้หลักการ “ร่วม จ่ายค่าบริการ” ส่วนกรณีผู้ลี้ภัย ผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้ไร้สถานะทางทะเบียน ควรกําหนดเป็น มาตรการทางบริหารโดยจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนสถานพยาบาล และมุ่งเน้นให้ความคุ้มครอง เฉพาะบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน หรือบริการที่จําเป็นทางสุขภาพเท่านั้น เพื่อให้เกิดดุลยภาพของ การคุ้มครองสิทธิกับภาระทางการคลังของรัฐ |
รายละเอียดเพิ่มเติม: |
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 |
หัวเรื่องมาตรฐาน: | คนต่างด้าว -- สุขภาพและอนามัย |
ประเภททรัพยากร: | วิทยานิพนธ์ |
ความยาว: | 305 แผ่น |
ชนิดของสื่อ: | Text |
รูปแบบแฟ้มข้อมูล: | application/pdf |
ภาษา: | tha |
สิทธิในการใช้งาน: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6139 |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้ (CONTENT) |
|
ดู ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|