กลวิธีการเล่าเรื่องของบทเพลงประกอบละครในละครโทรทัศน์ไทย
by อุษา แซ่จิว
ชื่อเรื่อง: | กลวิธีการเล่าเรื่องของบทเพลงประกอบละครในละครโทรทัศน์ไทย |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | The storytelling of original soundtrack in Thai television series |
ผู้แต่ง: | อุษา แซ่จิว |
ผู้ควบคุมงานวิจัย: | อุบลวรรณ เปรมศรีรัตน์ |
ชื่อปริญญา: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
ระดับปริญญา: | Master's |
สาขาวิชา: | นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม |
คณะ/หน่วยงาน: | คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ |
หน่วยงานที่ประสาทปริญญา: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
วันที่เผยแพร่: | 2560 |
ตัวระบุวัตถุจิจิทัล (ดีโอไอ): | 10.14457/NIDA.the.2017.101 |
หน่วยงานที่เผยแพร่: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
บทคัดย่อ/เนื้อเรื่องย่อ: |
งานวิจัยชิ้นนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาถึงกลวิธีการเล่าเรื่องของบทเพลงประกอบละคร รวมถึง บทบาทและหน้าที่จากกลวิธีการเล่าเรื่องของเพลงประกอบละครที่ถูกนำไปใช้ในละครโทรทัศน์ไทย ปัจจุบัน โดยพิจารณาเฉพาะละครยอดเยี่ยมที่ได้รับรางวัลนาฏราช ตั้งแต่ ปี 2557-2558 ได้แก่ ละครสามีตีตรา และละครสุดแค้นแสนรัก ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 6 เพลง ได้แก่ ฉันก็รักของฉัน ไม่เจ็บ อย่างฉันใครจะเข้าใจ เกิดมาเพื่อรักเธอ จากละครสามีตีตรา และเจ็บนี้จำจนตาย แพ้รักให้ตายก็ ไม่รักกัน จากละครสุดแค้นแสนรัก งานวิจัยชิ้นนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาจากการ วิเคราะห์ตัวบท ประกอบกับการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสาขาวิชาชีพ และนักวิชาการ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาข้อที่หนึ่ง พบว่าการเล่าเรื่องของเพลงละครส่วนใหญ่เป็นการสื่อสาร ทางเดียว ที่มุ่งบอกความต้องการส่วนบุคคล แต่เพลงฉันก็รักของฉัน นำเสนอผ่านตัวละครหลัก สองคนที่ตอบโต้กัน จึงทำให้อารมณ์เพลงมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เป็นเหตุให้ขั้นวิกฤตของ เพลงนี้ครอบคลุมตั้งแต่ท่อนฮุคข้ามไปยังท่อนเชื่อม ซึ่งโดยปกติแล้วเพลงอื่นจะหยุดขั้นภาวะวิกฤต ไว้ที่ท่อนฮุค และละครชีวิตทั้งสองเรื่องพบว่าทุกเพลงนำเสนอแก่นความรักที่เป็นขั้วขัดแย้ง สอดคล้องกับอารมณ์เพลงที่มาจากพื้นฐานของละคร การใช้สัญญะมีหน้าที่เล่าข้อมูลที่ลึกลงไปใน จิตใจของตัวละครอันสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติ ค่านิยม รวมถึงภูมิหลังตัวละครหรือค้นพบข้อที่สอง พบว่าบทบาทและหน้าที่ของเพลงประกอบละครในปัจจุบัน นอกจาก เพลงประกอบละครที่ดีต้องส่งเสริมอารมณ์ตัวละครแล้ว ยังต้องเป็นเพลงที่ดี กล่าวคือ เป็นเพลง ที่ให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงนั้น ๆ ได้ด้วย โดยละครสองเรื่องนี้มีการนำเสนออารมณ์ของ เพลงเหมือนกัน ประกอบไปด้วยหนึ่งเพลงประกอบละครหลักที่นำเสนอแก่นสำคัญ และต้องเป็นมุมมองของตัวละครหลักที่เป็นต้นเหตุสำคัญของเรื่องทั้งหมด ตามด้วยเพลงประกอบละครอีกสอง เพลงที่สะท้อนมุมมองตัวละครหลักฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง โดยหยิบเฉพาะฉากเวลาที่เกิดขั้ว ขัดแย้งมาเล่าเรื่องในเพลง โดยสัญญะที่พบคือการเลือกเสียงประสานที่มีทั้งความหมายทางตรง ที่เห็นได้จากภายนอก เพศสภาพ ช่วงอายุ และความหมายโดยนัยจากการสื่ออารมณ์ การตีความ ผู้ถ่ายทอดทั้งสองต้องมีความเชื่อในระดับเดียวกันเพื่อสื่อสารออกมาในทิศทางเดียว แต่ต่างกันแค่ บริบทในการเล่าเรื่องของเพลงประกอบละครและละครโทรทัศน์ |
รายละเอียดเพิ่มเติม: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560 |
หัวเรื่องมาตรฐาน: | ดนตรีประกอบการแสดง
ละครโทรทัศน์ ละคร -- ไทย -- การผลิตและการกำกับรายการ |
ประเภททรัพยากร: | วิทยานิพนธ์ |
ความยาว: | 168 แผ่น |
ชนิดของสื่อ: | Text |
รูปแบบแฟ้มข้อมูล: | application/pdf |
ภาษา: | tha |
สิทธิในการใช้งาน: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6151 |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้ (CONTENT) |
|
ดู ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|