dc.contributor.author | ธนานันต์ กัญญาราช | th |
dc.date.accessioned | 2023-01-16T04:35:41Z | th |
dc.date.available | 2023-01-16T04:35:41Z | th |
dc.date.issued | 2017 | |
dc.identifier | ิb203181 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6152 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (รป.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560 | |
dc.description.abstract | งานวิจัยฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน
และนําเสนอรูปแบบการจัดสวัสดิการของกองทุนสวัสดิการชุมชน เพื่อหาแนวทางพัฒนาการ
บริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนอย่างยั่งยืนในพื้นที่อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ การ
ศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการวิจัยที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้เครื่องมือ
ในการวิจัย ได้แก่ การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview)เพื่อหาจุดสําคัญ ควบคู่ไปกับการสังเกต
แบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) ในทุกขัÊนตอนและกระบวนการกลุ่ม กระบวนการทํางาน
ตลอดจนการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group) เพืÉอหาข้อสรุปในประเด็นการอภิปราย โดยมีกลุ่ม
ตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ กองทุนสวัสดิการชุมชนในพื้นที่อําเภอสันป่าตอง 3 กองทุน โดย
กําหนดคุณสมบัติของกองทุนไว้ 3 ประการ คือ 1) เป็ นกองทุนที่มีสมาชิกมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป
2) เป็ นกองทุนที่มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 1 ล้านบาท 3) เป็ นกองทุนที่ดําเนินการมาแล้วไม่น้อย
กว่า 3 ปี เพื่อจํากัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด โดยเก็บข้อมูลครอบคลุมประเด็นหลักคือ
1) การบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน 2) รูปแบบการจัดสวัสดิการของกองทุนสวัสดิกานชุม
ชน และ 3) การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างที่เกี่ยวข้องกับกองทุนสวัสดิการชุมชน จากนั้นนําไป
วิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลจึงใช้การพรรณนาความ (Descriptive)ควบคู่กับการตีความสร้าง
ข้อสรุปแบบอุปนัย (Induction) จากข้อมูลการสัมภาษณ์ประกอบกับเอกสารอื่นๆ (Document Analysis)เพื่อ
ความเป็นระบบ เน้นสภาพวัตถุวิสัย และอ้างอิงกรอบแนวคิดทฤษฏีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องควบคู่
บริบท (Context)จากการลงภาคสนาม (Field Study) และถ่ายทอดผลการศึกษาด้วยการพรรณนาใน
ลักษณะความเรียง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในงานเชิงคุณภาพผลการวิจัยพบว่าใน | th |
dc.description.abstract | ประเด็นที่ 1 การบริหารกองทุนสวัสดิการชุมชนนั้นเป็นการต่อยอดโครงการจากโครงการ
ดูแลผู้สูงอายุของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในขณะนั้น ให้กลายมาเป็น
กองทุนสวัสดิการชุมชนมีการเก็บเงินออมทรัพย์วันละ 1 บาทเดือนละ 30 บาทต่อคน โดยบังใช้
ระเบียบบริหารกองทุนจากกระทรวง มีคณะกรรมการกองทุนที่มีวาระในการดํารงตําแหน่งคราวละ
2 ปี มีการจัดสรรเงินงบประมาณของกองทุนในลักษณะ 80:20 แบ่งเป็ นเงินจัดสวัสดิการและ
บริหารงาน 80เปอร์เซนต์และเก็บไว้เป็ นเงินทุนสํารองอีก 20เปอร์เซนต์ | th |
dc.description.abstract | ประเด็นที่ 2 รูปแบบการจัดสวัสดิการของกองทุนสวัสดิการชุมชน จากการศึกษาพบว่า
รูปแบบที่กองทุนสวัสดิการชุมชนใช้ในปัจจุบันรูปแบบการจัดสวัสดิการองค์กรชุมชนร่วมทุน ผ่าน
การสนับสนุนเงินงบประมาณจากภาครัฐบางส่วนและจัดเก็บจากสมาชิกบางส่วน โดยสามารถแบ่ง
การจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกกองทุนได้ 4 ประเภทหลักได้แก่ การเกิด การศึกษา เจ็บป่วย เสียชีวิต | th |
dc.description.abstract | ประเด็นที่ 3 การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกองทุนสวัสดิการชุมชน ผล
การศึกษาพบว่า มี 2 ส่วนคือหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทั้งในระดับจังหวัด
และหน่วยงานย่อยอย่าง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ที่เข้ามาสนับสนุนในเรื่องขององค์
ความรู้ การจัดการ และงบประมาณ และอีกหน่วยงานคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่ง
ให้การสนับสนุนงบประมาณรายปี ให้แก่กองทุน ซึ่งกองทุนสวัสดิการชุมชนจะต้องรายงานผลการ
ปฏิบัติงานให้หน่วยงานดังกล่าวทราบเป็นระยะ | th |
dc.description.abstract | ข้อเสนอแนะต่อกองทุนสวัสดิการชุมชน
1) กองทุนสวัสดิการชุมชนจะต้องมีการบูรณาการกับทุนทางสังคม ทุนการเงินอื่น
ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับสวัสดิการชุมชน
2) กองทุนสวัสดิการชุมชนต้องมีการจัดทําแผนพัฒนาในทุกมิติของการบริหาร
จัดการกองทุน เช่น แผนการเพิ่มเติมสมาชิก แผนในการจัดหารายได้ แผนในการพัฒนาการจ่าย
สวัสดิการให้กับสมาชิก และแผนการเติบโตไปสู่องค์กรชุมชนรูปแบบอื่นในอนาคต
3) เสริมสร้างให้กองทุนสวัสดิการชุมชนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ในเรื่อง
ของการออม การจัดสวัสดิการสังคม
4) บูรณาการองค์ความรู้ ความร่วมมือกับกองทุนสวัสดิการชุมชนอื่นๆ ตลอดจน
การแลกเปลี่ยนบุคลากร
5) เสริมสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ให้เข้ามาบริหารงานกองทุน และสร้างระบบสารสนเทศ
ที่เป็นมาตรฐาน | th |
dc.description.provenance | Submitted by Chitjai Singhapong (chitjai.s@nida.ac.th) on 2023-01-16T04:35:40Z
No. of bitstreams: 1
b203181.pdf: 873365 bytes, checksum: a93351f3afb1a47534d20d36f574b441 (MD5) | th |
dc.description.provenance | Made available in DSpace on 2023-01-16T04:35:41Z (GMT). No. of bitstreams: 1
b203181.pdf: 873365 bytes, checksum: a93351f3afb1a47534d20d36f574b441 (MD5)
Previous issue date: 2017 | th |
dc.format.extent | 156 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject | กองทุนสวัสดิการ | th |
dc.subject.other | สวัสดิการชุมชน | th |
dc.title | การพัฒนาการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน อำเภอป่าสันตอง จังหวัดเชียงใหม่ | th |
dc.title.alternative | The development management of community welfare fund : Sanpatong District Chiang Mai Province | th |
dc.type | Text | th |
mods.genre | วิทยานิพนธ์ | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.name | รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต | th |
thesis.degree.level | Master's | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.department | คณะรัฐประศาสนศาสตร์ | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.2017.102 | |