การศึกษาคุณลักษณะของสื่อประเพณีจองพารา และการนำไปใช้ในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
by กรกนก สนิทการ
ชื่อเรื่อง: | การศึกษาคุณลักษณะของสื่อประเพณีจองพารา และการนำไปใช้ในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | A study on characteristics of the traditional media “Jong Pa Ra Festival” and its use in cultural tourism in Mae Hong Son Province |
ผู้แต่ง: | กรกนก สนิทการ |
ผู้ควบคุมงานวิจัย: | กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ |
ชื่อปริญญา: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
ระดับปริญญา: | Master's |
สาขาวิชา: | นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม |
คณะ/หน่วยงาน: | คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ |
หน่วยงานที่ประสาทปริญญา: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
วันที่เผยแพร่: | 2560 |
ตัวระบุวัตถุจิจิทัล (ดีโอไอ): | 10.14457/NIDA.the.2017.105 |
หน่วยงานที่เผยแพร่: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
บทคัดย่อ/เนื้อเรื่องย่อ: |
การศึกษาเรื่อง “การศึกษาคุณลักษณะของสื่อประเพณีจองพารา และการนําไปใช้ใน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน” เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In-depth Interview) กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูล (Keys Informent) สําคัญจํานวน 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน และผู้นํากลุ่มชาวบ้านในการ จัดงานจํานวน 5 คน 2) กลุ่มหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานคือสภาวัฒนธรรมบ้านเมืองปอน อําเภอขุนยวม และ นักวิชาการผู้ดูแลในส่วนงานด้านวัฒนธรรมขององค์การบริหารส่วน ตําบลบ้านเมืองปอน จํานวน 2 คน และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม จํานวน 1 ครั้ง ในช่วงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม 2559 ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะของประเพณีจองพาราจากอดีตจนถึงปจจุบันนั้น มีความแตกต่างกันอยู่ในส่วนรูปแบบโดยในอดีตจะเป็นการทําเองของแต่ละบ้าน แต่ในปจจุบันนั้น มีการจัดทําเป็น “โครงการอบรมและร่วมอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีจองพารา” และมีการ เดินขบวนแห่จองพาราเพิ่มขึ้นมา ในด้านเนื้อหา คือในอดีตประเพณีจองพาราเป็นประเพณีที่ แสดงออกถึงความศรัทธาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสุขให้ครอบครัวและตนเอง แต่ใน ปัจจุบันเป็นประเพณีที่มีวัตถุประสงค์ไว้เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของการนําไปใช้ในการท่องเที่ยวนั้น ประเพณีจองพารามีหน้าที่เป็น สื่อ และ สาร โดยที่มีการปรับตัวใน ด้านรูปแบบและเนื้อหา แต่ยังคงคุณค่าและความหมาย ซึ่งเป็นรากที่สําคัญของประเพณีไว้อยู่โดยเจ้าของวัฒนธรรมคือคนในชุมชนบ้านเมืองปอนเองโดยมีการ ยินยอมและเห็นด้วยในการนําไปประเพณีจองพาราไปเป็นสื่อในการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ ถึงแม้กระนั้นก็ยังคงความหวงแหนในวัฒนธรรมของตนและคอยเฝ้าระวังอยู่เสมอ และจากการนําเอาสื่อประเพณีไปใช้ในการท่องเที่ยวครั้งนี้นั้น ก็ได้สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านเมือง ปอนทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ได้มีการให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ข้อเสนอแนะในงานวิจัยชิ้นนี้ คือ จากการที่นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายนั้นยังไม่มีการตอบรับกลับ หรือ สนใจอยากมาเยี่ยมชมงานประเพณีจองพาราแบบเจาะจงลงไปนั้น ส่วนหนึ่งผู้วิจัยคาดว่ามาจากการขาดใช้สื่ออื่นๆ ในการโปรโมทงานประเพณีจองพารา โดย ในงานวิจัยชิ้นนี้ยังคงไม่มีผลออกมาให้เห็นในเรื่องของการใช้สื่ออื่น |
รายละเอียดเพิ่มเติม: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560 |
หัวเรื่องมาตรฐาน: | การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม |
ประเภททรัพยากร: | วิทยานิพนธ์ |
ความยาว: | 140 แผ่น |
ชนิดของสื่อ: | Text |
รูปแบบแฟ้มข้อมูล: | application/pdf |
ภาษา: | tha |
สิทธิในการใช้งาน: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6219 |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้ (CONTENT) |
|
ดู ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|