• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะเชิงประจักษ์ : ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการประถมศึกษาของไทย (พ.ศ. 2523-2527)

by สมบัติ ธำรงธัญวงศ์

Title:

การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะเชิงประจักษ์ : ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการประถมศึกษาของไทย (พ.ศ. 2523-2527)

Other title(s):

An empirical model of public policy analysis : a case study of determinant factors affecting Thai education policy at the primary level (1980-1984)

Author(s):

สมบัติ ธำรงธัญวงศ์

Advisor:

สมศักดิ์ ชูโต, อาจารย์ที่ปรึกษา

Degree name:

พัฒนบริหารศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต

Degree level:

ปริญญาเอก

Degree discipline:

การบริหารการพัฒนา

Degree department:

คณะรัฐประศาสนศาสตร์

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

1988

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การศึกษาปัจจัยกำหนดที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายและผลของนโยบายการประถมศึกษาของไทย เป็นการศึกษาเชิงประจักษ์โดยใช้แนวคิดเชิงระบบเป็นกรอบใหญ่ในการวิเคราะห์ เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการกำหนดนโยบายการประถมศึกษาของไทยกับปัจจัยสิ่งแวดล้อมทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการกำหนดนโยบายการประถมศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการและการสนับสนุนของประชาชนในท้องถิ่น ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยกำหนดให้ฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชน ความเป็นเมือง และความเป็นอุตสาหกรรม เป็นดัชนีในการวัดปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม และกำหนดให้การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนเป็นดัชนีวัดปัจจัยทางการเมือง ส่วนนโยบายการประถมศึกษาทำการวัดด้วยปัจจัยที่เกี่ยวกับคุณภาพการเรียนการสอน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักเรียน เงินเดือนเฉลี่ยของครู วุฒิครู และอัตราส่วนนักเรียนต่อครู สำหรับผลของนโยบายการประถมศึกษาทำการวัดด้วยอัตราส่วนนักเรียนเหลือรอด อัตราส่วนนักเรียนเรียนต่อชั้น ม.1 และอัตราส่วนนักเรียนในบัญชีโรงเรียน ทั้งนี้โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิระดับจังหวัดเป็นฐานในการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ดังกล่าววิเคราะห์ด้วยเทคนิคสหสัมพันธ์ ทั้งสหสัมพันธ์แบบง่ายและสหสัมพันธ์บางส่วน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พร้อมด้วยการวิเคราะห์แคนนอนิคอล เพื่อตรวจสอบความแกร่งของความสัมพันธ์ดังกล่าว.
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาครั้งนี้แม้ว่าจุดมุ่งหมายหลักจะเป็นการศึกษาเชิงประจักษ์ก็ตาม แต่เพื่อให้การศึกษามีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผู้วิจัยจึงทำการศึกษาเชิงคุณภาพเป็นพื้นฐานของการศึกษาเชิงประจักษ์ไว้ด้วย โดยทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารการประถมศึกษาระดับต่าง ๆ ทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับกลุ่มโรงเรียน แนวทางการสัมภาษณ์เกี่ยวข้องกับกระบวนการกำหนดนโยบายและการจัดสรรงบประมาณ เพื่อตรวจสอบว่าการกำหนดนโยบายและการจัดสรรงบประมาณมีความสัมพันธ์อย่างไรบ้างกับปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองความต้องการและการสนับสนุนของประชาชนในท้องถิ่น ในการเลือกกลุ่มตัวอย่างเพื่อทำการสัมภาษณ์ นอกจากระดับชาติซึ่งเลือกสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติเป็นประชากรตัวอย่างแล้ว ในระดับอื่น ๆ ได้ทำการคัดเลือกจากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพิจารณาจากความแตกต่างทางฐานะเศรษฐกิจระหว่างระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูงเป็นเกณฑ์ พร้อมทั้งพิจารณาที่ตั้งของจังหวัดที่เลือกเป็นประชากรตัวอย่างให้มีลักษณะกระจายครอบคลุมพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวจังหวัดที่ได้รับการคัดเลือก คือ จังหวัดนครราชสีมา สกลนคร และศรีสะเกษ ซี่งเป็นตัวแทนจังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจระดับสูง กลาง และต่ำ ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์เชิงคุณภาพแสดงให้เห็นว่า การกำหนดนโยบายการประถมศึกษาของไทยมีความสัมพันธ์กับปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการวิเคราะห์เชิงประจักษ์ต่อไป ผลการวิเคราะห์เชิงประจักษ์พบว่า.
1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม มีบทบาทสำคัญในการอธิบายผลของนโยบายการประถมศึกษา โดยเฉพาะรายได้มีอิทธิพลโดยอิสระต่ออัตราส่วนนักเรียนเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1.
2. ปัจจัยทางการเมือง ได้แก่ การมีส่วนร่วมทางการเมืองไม่สามารถอธิบายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลของนโยบายการประถมศึกษาไม่ว่าในมิติใดทั้งสิ้น
3. นโยบายการประถมศึกษามีบทบาทสำคัญในการอธิบายผลของนโยบายการประถมศึกษา โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักเรียนและอัตราส่วนนักเรียนต่อครู มีอิทธิพลโดยอิสระต่ออัตราส่วนนักเรียนในบัญชีโรงเรียน และเงินเดือนเฉลี่ยของครูและวุฒิครูมีอิทธิพลโดยอิสระต่ออัตราส่วนนักเรียนเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1.
4. ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมมีบทบาทสำคัญในการอธิบายนโยบายการประถมศึกษา โดยตัวแปรทุกตัวในปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมมีน้ำหนักในการอธิบายตัวแปรทุกตัวในชุดนโยบายการประถมศึกษาได้โดยอิสระ ยกเว้นตัวแปรรายได้กับตัวแปรอัตราส่วนนักเรียนต่อครู
5. ปัจจัยทางการเมือง ได้แก่ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน สามารถอธิบายนโยายการประถมศึกษาในมิติเงินเดือนเฉลี่ยของครู และวุฒิครู ได้โดยอิสระ
6. ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม มีความสัมพันธ์ต่ำกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
7. นโยบายการประถมศึกษาทั้งชุดสามารถอธิบายผลของนโยบายการประถมศึกษาได้สูงกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม
ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าทฤษฎีระบบที่ใช้เป็นกรอบในการศึกษาสามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการกำหนดนโยบายการประถมศึกษากับสภาพแวดล้อมทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ได้อย่างชัดเจน และผู้วิจัยได้เสนอตัวแบบสำหรับวิเคราะห์นโยบายการประถมศึกษาของไทยที่เป็นผลจากการค้นพบในครั้งนี้ไว้ในวิทยานิพนธ์นี้ด้วย.

Description:

วิทยานิพนธ์ (พบ.ด. (การบริหารการพัฒนา))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2531.

Subject(s):

การศึกษาขั้นประถม -- ไทย
นโยบายศาสตร์

Keyword(s):

นโยบายการศึกษา

Resource type:

ดุษฎีนิพนธ์

Extent:

[ก]-ถ, [298] แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/909
Show full item record

Files in this item (EXCERPT)

Thumbnail
View
  • nida-diss-b10033ab.pdf ( 128.36 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • nida-diss-b10033.pdf ( 4,289.36 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSPA: Dissertations [409]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×