• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

อิทธิพลของภาวะผู้นำของคณบดีที่มีต่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

by ชวลิต หมื่นนุช

Title:

อิทธิพลของภาวะผู้นำของคณบดีที่มีต่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

Other title(s):

The influence of leadership of deans affecting academic administration in private higher education institutions

Author(s):

ชวลิต หมื่นนุช

Advisor:

ถวัลย์ วรเทพพุฒิพงษ์, อาจารย์ที่ปรึกษา

Degree name:

พัฒนบริหารศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต

Degree level:

ปริญญาเอก

Degree discipline:

การบริหารการพัฒนา

Degree department:

คณะรัฐประศาสนศาสตร์

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

1992

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การศึกษาวิจัยเรื่อง อิทธิพลของภาวะผู้นำของคณบดีที่มีต่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนี้ มุ่งที่จะหาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอิทธิพลของภาวะผู้นำของคณบดีและปัจจัยอื่น ๆ ที่มีต่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการ โดยใช้ทฤษฏีภาวะผู้นำของฟิดเลอร์
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาความสามารถในการใช้ทฤษฎีภาวะผู้นำของฟิดเลอร์ ทำนายประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการระดับคณะวิชาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 2) เพื่อศึกษาหาปัจจัยภูมิหลังที่สำคัญของคณบดีที่สามารถอธิบายหรือมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีมากที่สุด 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบสมการพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการในคณะวิชาที่มีความสามัคคีแตกต่างกัน 4) เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการในคณะวิชา ที่หัวหน้าภาควิชาส่วนใหญ่มีพฤติกรรมผู้นำสอดคล้องและไม่สอดคล้องกับคณบดี 5) เพื่อศึกษาหารูปแบบสมการพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีที่ดีที่สุดจากตัวแปรอิสระ 5 ชุดคือ ภูมิหลังของคณบดี คุณลักษณะของคณะวิชา ภาวะผู้นำ และสถานการณ์กลุ่มเอื้อแต่ความสามัคคีของอาจารย์ในคณะวิชาแตกต่างกัน
การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถาม 2 ชุด ชุดแรกสำหรับคณบดีจำนวน 118 คน และชุดที่สองสำหรับหัวหน้าภาควิชาจำนวน 307 คน ตัวแปรอิสระที่ศึกษาได้แก่ 1) ภูมิหลังของคณบดี 2) คุณลักษณะของคณะวิชา 3) พฤติกรรมผู้นำและสถานการณ์ 4) ความสามัคคีในคณะวิชา 5) พฤติกรรมผู้นำของหัวหน้าภาควิชาส่วนตัวแปรตามได้แก่ ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS/PC+ และ SPSSX (Statistics Package for the Social Sciences) โดยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นสถิติเชิงพรรณนาใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนที่สองเป็นสถิติเชิงอนุมาน ใช้การทดสอบด้วยที ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ดานอนิคอล
ผลการศึกษาพบว่า.
1. ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีส่วนใหญ่ อยู่ในระดับปานกลาง.
2. คณบดีส่วนใหญ่มีพฤติกรรมผู้นำแบบมุ่งกิจสัมพันธ์ (วัดด้วยมาตรวัด LPC) หรือมีพฤติกรรมผู้นำแบบมุ่งกิจสัมพันธ์และมุ่งมิตรสัมพันธ์ค่อนข้างสูง (วัดด้วยมาตรวัด LBDQ)
3. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริหารงานวิชาการของคณบดีมีประสิทธิผลสูงมี 5 ปัจจัย คือ 1) ปัจจัยด้านสถานการณ์ที่เอื้อต่อการบริหารงานตามทฤษฎีของฟิดเลอร์ ซึ่งประกอบด้วยอำนาจในตำแหน่ง โครงสร้างของงานและความสัมพันธ์ระหว่างคณบดีกับผู้ร่วมงาน 2) ปัจจัยด้านพฤติกรรมผู้นำ ซึ่งได้แก่ พฤติกรรมผู้นำแบบมุ่งกิจสัมพันธ์ (วัดด้วยมาตรวัด LPC) หรือพฤติกรรมผู้นำแบบมุ่งกิจสัมพันธ์หรือมุ่งมิตรสัมพันธ์สูง (วัดด้วยมาตรวัด LBDQ) ในสถานการณ์เอื้อสูง 3) ปัจจัยด้านความสามัคคีของอาจารย์ในคณะวิชา 4) ปัจจัยด้านการฝึกอบรมด้านการบริหารและ 5) ปัจจัยด้านประสบการณ์ในการบริหารงาน
4. ตัวแปรที่สามารถอธิบายหรือพยากรณ์ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีได้ดีที่สุดในชุดตัวแปรภูมิหลัง คือ การฝึกอบรมทางด้านการบริหารและรองลงมาได้แก่ ประสบการณ์ทางการบริหารในตำแหน่งคณบดีรวมกับประสบการณ์ในทางการบริหารในตำแหน่งอื่น ๆ ภายในสถาบันก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งคณบดี
5. ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของคณบดีจะสูง ถ้าหัวหน้าภาควิชามีพฤติกรรมผู้นำสอดคล้องกับคณบดี
ข้อเสนอแนะ
การบริหารงานวิชาการของคณบดีในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หากมุ่งหมายจะให้มีประสิทธิผลสูงควรดำเนินการดังนี้
1. สถานการณ์จะต้องเอื้อต่อการบริหารงานวิชาการ คือ
1.1 อำนาจในตำแหน่งของคณบดี มีอำนาจวินิจฉัยให้อาจารย์ในคณะปฏิบัติตาม ได้รับการยอมรับจากผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา มีการกำหนดอำนาจดังกล่าวไว้ชัดเจน
1.2 โครงสร้างของงานในคณะวิชาจะต้องชัดเจน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของผู้ร่วมงาน และการตัดสินใจ มีการกำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงานชัดเจนมีการแบ่งงานและความรับผิดชอบอย่างเป็นธรรม มีเกณฑ์การประเมินผลงานและมีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง มีการแก้ไขข้อบกพร่องอยู่เสมอ
1.3 คณบดีมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ร่วมงาน ได้รับความเคารพนับถือจากสมาชิกในกลุ่ม ผู้ใต้บังคับบัญชายอมรับในความสามารถและการปฏิบัติงานของคณบดี
2. คณบดีจะต้องมีพฤติกรรมผู้นำแบบมุ่งกิจสัมพันธ์ (วัดด้วยมาตรวัด LPC) หรือมีพฤติกรรมผู้นำที่มุ่งกิจสัมพันธ์และมุ่งมิตรสัมพันธ์สูง (วัดด้วยมาตรวัด LBDQ) ในสถานการณ์ของคณะวิชาที่เอื้อ
3. ผู้ร่วมงานในคณะวิชาจะต้องมีความสามัคคีกันสูง มีความกระตือรือร้นในการทำงานร่วมกัน ยอมรับนับถือในความสามารถของเพื่อนร่วมงาน ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
4. คณบดีควรได้รับการฝึกอบรมทางด้านการบริหาร กล่าวคือจะต้องมีความรู้ ความสามารถ และมีความเข้าใจในเรื่องการบริหารและการจัดการ.
5. การเลือกคณบดี ควรเลือกผู้มีประสบการณ์ในการบริหารงานภายในสถาบันการศึกษามาก่อน

Description:

วิทยานิพนธ์ (พบ.ด.(การบริหารการพัฒนา))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2535.

Subject(s):

นักบริหาร

Keyword(s):

ผู้นำ
คณบดี

Resource type:

ดุษฎีนิพนธ์

Extent:

ก-ธ, 271 แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/932
Show full item record

Files in this item (EXCERPT)

Thumbnail
View
  • nida-diss-b2436ab.pdf ( 189.53 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • nida-diss-b2436.pdf ( 4,960.73 KB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSPA: Dissertations [410]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×