ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Abstract

การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจ ครอบครัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2) วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของ ธุรกิจครอบครัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ 3) สร้างตัวแบบธุรกิจครอบครัวไทยที่มี การเติบโตที่ยั่งยืน งานวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวที่ผ่านมายังมีน้อยมาก การศึกษานี้เริ่มต้นจากการศึกษา ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตที่ ยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการทบทวนแนวคิดทฤษฎีเพื่อ นํามากําหนดสมมติฐานวิจัย และให้ความสําคัญกับการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกและกรณีศึกษา เพื่อนําผลการวิจัยเชิงคุณภาพมาสนับสนุน ผลการวิจัยเชิงปริมาณ หน่วยวิเคราะห์คือธุรกิจครอบครัวที่มีชื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย ตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามเชิงสํารวจเป็นธุรกิจครอบครัวที่เติบโตอย่างยั่งยืนจํานวน 101 บริษัท และเติบโตแต่ไม่ยั่งยืนจํานวน 71 บริษัท ผลการศึกษาพบว่าความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจครอบครัว วัฒนธรรมของธุรกิจ ครอบครัว ภาวะผู้นําของธุรกิจครอบครัวการจัดการเชิงกลยุทธ์และคณะกรรมการครอบครัวและ คณะกรรมการบริหารเป็นปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว การศึกษานี้ได้แนะนําว่า 1) ผู้ก่อตั้งและ/หรือ ทายาทรุ่นต่อมาที่ดํารงตําแหน่งผู้นําของ ธุรกิจครอบครัวควรมีบทบาทสําคัญในการกระตุ้นให้สมาชิกในครอบครัวร่วมแรงร่วมใจในการ จัดการธุรกิจให้ประสบความสําเร็จควรมีการจัดการธุรกิจแยกออกจากครอบครัวอย่างเด็ดขาด ควรแผนการบ่มเพาะทายาทธุรกิจให้มีความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจอย่างเพียงพอไม่น้อยกว่า 5 ปี ก่อนการเข้าดำรงตำแหน่งระดับสูงในธุรกิจครอบครัว 2) ควรมีแผนกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับ หลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมมีการริเริ่มธุรกิจใหม่ และมีการกระจายธุรกิจไป ยังธุรกิจประเภทอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง มีการนำธุรกิจความเป็นสากลมีแผนการสืบทอด ธุรกิจที่มีการกำหนดตัวทายาทมีการบ่มเพาะทายาทเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ธรกิจและแผนควรมการหารือกันภายในคณะกรรมการครอบครัวเพื่อให้เกิดการยอมรับความเข้าใจและเป็นความตกลง ร่วมกันในหมู่สมาชิกครอบครัว 3) ควรดำเนินการบนพื้นฐานวัฒนธรรมครอบครัวเช่นการรักษา ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกครอบครัว ยึดมั่นในคำมั่นสัญญาทางธุรกิจอย่างมั่นคงเหนียวแน่น 4) ควรมีการตั้งคณะกรรมการครอบครัวแยกจากคณะกรรมการบริหาร โดยคณะกรรมการ ครอบครัวมีหน้าที่ในการสร้างและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวกําหนด หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกบ่มเพาะสมาชิกครอบครัวเพื่อเข้าสู่ธุรกิจครอบครัวแต่ไม่ควรมีบทบาท หน้าที่ในการจัดการธุรกิจครอบครัวส่วนคณะกรรมการบริหารควรมีการกำหนดวิสัยทัศน์ธุรกิจ ยุทธวิธีอย่างชัดเจนและนำไปสู่การปฏิบัติสําหรับธุรกิจครอบครัวอย่างจริงจัง 5) ควรมีการปรับเปลี่ยนการจัดการให้ทันสมัยอยู่เสมอสร้างและธำรงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัวเพราะความคิคในหมู่สมาชิกครอบครัวจะสร้างพลังอื่นแข็งแกร่งให้กับธรกิจ ครอบครัว นอกจากนี้การยึดถือคำมั่นสัญญาในธุรกิจอย่างเหนียวแน่นมั่นคงถือว่าเป็นจุดแข็งแกร่ง ที่สําคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจครอบครัว