กระบวนการและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นเทศบาลตำบล : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลในจังหวัดขอนแก่น
Publisher
Issued Date
2011
Issued Date (B.E.)
2554
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
278 แผ่น ; 30 ซม.
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สุนทรชัย ชอบยศ (2011). กระบวนการและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นเทศบาลตำบล : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลในจังหวัดขอนแก่น. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/989.
Title
กระบวนการและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นเทศบาลตำบล : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลในจังหวัดขอนแก่น
Alternative Title(s)
Process and impact from Tambon Administrative Organization (TAO) to a sub-district municipality : a case study of sub-district municipality in KhonKaen Province
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาในกระบวนการเปลียนแปลงฐานะเป็น เทศบาลตำบล และเพื่อศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขึ้นเป็นเทศบาลตำบล โดยใช้การศึกษาเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาเอกสาร การสังเกตและ การสัมภาษณ์เชิงลึก จากข้าราชการส่วนกลางส่วนภูมิภาค กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ ท้องถิ่นและกลุ่มประชาชนในเทศบาลตำบล 2 แห่งในจังหวัดขอนแก่น ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาในการเปลียนแปลงฐานะจากอบต.เป็นเทศบาลตำบล คือ 1) ปัญหาที่เกิดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอปท.ในพื้นทีใกล้เคียง เช่น การขาดความ ร่วมมือของอปท.ทีมีอาณาเขตติดต่อกันในการตรวจแนวเขตการปกครอง 2) ปัญหาการมีส่วน ร่วมของประชาชนในการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลตำบลเช่น การแสดงให้เห็นถึงความ ต้องการของนักการเมืองท้องถิ่นมากกว่าประชาชน ความไม่ชัดเจนในการสื่อสารเรื่องข้อกำหนด ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการเปลี่ยนแปลงฐานะ 3) ปัญหาอันเกิดจากราชการส่วนภูมิภาค เช่น แนวทางปฏิบัติไม่ชัดเจนในการหารือกับอปท. 4)ปัญหาทางการเมืองใน กระบวนการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลตำบล เช่น การใช้อำนาจลงนามเพื่อแสวงหาประโยชน์ ทางการเมืองและการใช้อปท.เป็นฐานเสียงของการเมืองระดับชาติ ผลกระทบภายในสำหรับฝ่ายบริหาร ด้านโครงสร้างมีการกำหนดคุณวุฒินายกเทศมนตรี มีตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ด้านการคลังยังคงมีรายได้จัดเก็บเองจำกัดและยังพึ่งพา งบอุดหนุนเป็นหลักและงบประมาณไม่ได้ตามการประมาณการ ด้านการบริหารงานบุคคล ก่อให้เกิดการขยายกรอบอัตรากำลังและเป็นการพัฒนาสายงานอาชีพโดยปริยาย ส่วนผลทีเกิดต่อ ฝ่ายนิติบัญญัตินั้น นอกจากจำนวนสมาชิกจะลดลงแล้วการปฏิบัติหน้าทีด้านนิติบัญญัติยังมี้อจำกัดอยู่ โดยเน้นเฉพาะเรื่องทีเป็นการให้ความเห็นชอบฝ่ายบริหารเป็นหลัก ทำให้การ ตรวจสอบไม่ได้เข้มข้นมากนัก ส่วนด้านการกำกับดูแลมีแนวปฏิบัติทีอำนาจกำกับดูแลเทศบาลอยู่ ทีส่วนกลางและระดับจังหวัดเป็นสำคัญโดยมีนายอำเภอเป็นเพียงผู้ช่วยเท่านั้น ทั้งนี้ภายหลังการเปลียนแปลงฐานะก่อให้เกิดผลกระทบใน มิติ คือ มิติการเมือง ท้องถิ่น มิติด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน มิติด้านการจัดบริการสาธารณะ และมิติด้าน ความสัมพันธ์กับชุมชนและผู้นำท้องที พบว่า เทศบาลตำบลทีเปลียนแปลงฐานะในระยะแรกต้อง พบกับความท้าทายหลายประการ กล่าวคือ มิติการเมืองท้องถิ่น มีการแข่งขันทางการเมืองของ เทศบาลตำบลทีรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มทางการเมืองของนักการเมืองในท้องถิ่นมากขึ้น ส่วนมิติด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังจำกัดเฉพาะการเลือกตั้ง โดยรวมการมีส่วนร่วมก็ไม่ ต่างจากเมื่อครั้งเป็นอบต.และประชาชนยังเชื่อมั่นในตัวผู้น าหมู่บ้านอยู่มาก ส่วนมิติด้านการ จัดบริการสาธารณะบทบาทหน้าทีของเทศบาลต าบลไม่ต่างจากอบต.มากนัก เทศบาลตำบลเน้นที การบริหารทั่วไปและการเคหะและชุมชนเป็นพิเศษ นอกจากนี้การที่ไม่ได้งบตามการประมาณ การส่งผลต่อการจัดบริการสาธารณะทีไม่เป็นไปตามแผนของเทศบาล สำหรับมิติด้าน ความสัมพันธ์กับชุมชนและผู้นำท้องที ประเด็นทีท้าทายด้านความร่วมมือระหว่างเทศบาลตำบล กับผู้นำท้องที่และชุมชนในการพัฒนา และเกิดความท้าทายเรื่องความเป็นตัวแทนประชาชนของ สมาชิกสภาเทศบาลในการทำหน้าที ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในกระบวนการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลตำบลดังนี้ 1) ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์การยกฐานะให้ชัดเจนและนักการเมืองไม่ควรนำเรื่องการยกฐานะ ไปใช้เป็นอำนาจในการต่อรองทางการเมือง 2) อบต.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกียวข้อง กับการยกฐานะควรการประสานงานกันเพื่อลดความขัดแย้งหรือความล่าช้าในการดำเนินการ 3) ควรมีการวางแผนการบริหารรองรับการเปลี่ยนแปลงฐานะในระยะยาว 4) การเปลี่ยนแปลงฐานะ เป็นเทศบาลตำบลควรพิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของชุมชน 5)การให้ ความสำคัญในการสร้างเวทีให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงฐานะ เป็นเทศบาลตำบลอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ภายหลังการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลตำบลควรพิจารณาดังนี้ 1) เทศบาล ตำบลมีความจำเป็นที่ต้องสนใจและแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชนและองค์กรภาคสังคม มากขึ้น 2) สมาชิกสภาเทศบาลต้องเรียนรู้การทำงานและทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนให้ได้ ตามความคาดหวังของประชาชน3) การแสวงหาแหล่งทุนอื่นๆเพื่อพัฒนาเทศบาลตำบล 4) ผู้นำท้องที่และผู้นำท้องถิ่นต้องผสานพลังเพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (รป.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2011