ขวัญจิรา เสนาสุดารัตน์ กาญจนพนาสนท์2022-05-242022-05-242017b201080https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5824การวจิยัครั้งนี้มีวตัถุประสงค์เพื่อศึกษาความเข้าใจความแตกต่างของไกไรโงะกับคำ ประเภท อื่นที่มีความหมายใกล้เคียงกัน และศึกษาปัจจัยด้านความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นและปัจจัยด้าน ประสบการณ์การใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นว่ามีผลต่อการเลือกใช้ไกไรโงะกับ คำประเภทอื่นที่มี ความหมายใกลเ้คียงกนัของผเู้รียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยหรือไม่อย่างไร โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 2กลุ่มคือ กลุ่ม A เป็นกลุ่มผู้ที่มีผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ N2จำนวน 30คน และกลุ่ม B เป็นกลุ่ม ผู้ที่มีผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ N3จำนวน 34 คน รวม 64คน ซึ่งเป็นกลุ่มตวัอย่างที่สุ่ม มาจากนักศึกษาสาขาวิชาเอกภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยศรีนครินท รวิโรฒ ที่กำลังศึกษาในระดับ ช้ันอุดมศึกษาชั้น ปีที่ 3และชั้นปีที่4 ทำการเก็บข้อมูลโดยการใช้ แบบสอบถามให้เลือกไกไรโงะและคำ ที่มีความหมายใกลเ้คียงกันและเติมลงในประโยคที่กำหนดให้ จำนวน 30 ข้อและเขียนอธิบายความแตกต่างของคำที่กำหนดให้หลงัจากนั้น ทำการวิเคราะห์ผล การศึกษาจากการศึกษาพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีแนวโน้มเข้าใจความแตกต่างระหว่างไกไร โงะกับคำประเภทอื่นที่มีความหมายใกล้เคียงกัน ซึ่งสัดส่วนในภาพรวมมีอัตราการตอบได้ถูกต้อง สูง ซึ่งคำถามให้เติมระหว่างคำว่า「チケット」กับ「切符」เป็นคำถามที่มีสัดส่วนคำตอบได้ ถูกต้องสูงที่สุดในบรรดาคำถามทั้ง 30 ข้อ(2)กลุ่มตัวอย่างกลุ่ม A ที่มีความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น สูงกว่าสามารถตอบได้คะแนนดีกว่ากลุ่มตัวอย่าง B และมีแนวโน้มสามารถนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมมากกว่า (3) จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าคำที่ปัจจัยด้านความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น และปัจจัยด้านประสบการณ์การใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อความเข้าใจความแตกต่างระหว่างไกไรโงะและคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน มีทั้งหมด 4 คู่ได้แกคำ ว่า 「プラン」กับ「計画」คำว่า 「ライス」กับ 「ご飯」คำว่า 「ミス」กับ 「失敗」และคำว่า 「スタート」กับ 「開始」 (4) กลุ่มตัวอย่างบางส่วนที่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างไกไรโงะกับคำ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน สามารถแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ 1.ลักษณะความเข้าใจผิดจากอิทธิพลของภาษาอังกฤษ 2.ลักษณะการใช้คำ ปรากฏร่วม และ 3.ลักษณะความเข้าใจผิดจากอิทธิพลของตารางเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยลักษณะความเข้าใจผิดจากอิทธิพลของภาษาอังกฤษมีความโดดเด่น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. ภาพลักษณ์ของคำ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน โดยจากผลที่ให้กลุ่มตัวอย่างอธิบาย ความแตกต่างของภาพลักษณ์ของคำทั้ง 10 คู่ พบว่า มีคำ 6 คู่คำ ได้แก่คำ ว่า 「ミス」กับ 「失敗」 คำว่า「プラン」กับ「計画」คำว่า「ダンス」กับ 「踊る」คำว่า「ショッピング」กับ「買い 物」คำว่า 「インタビュー」กับ 「面接」และคำว่า「スタート」กับ 「開始」ที่กลุ่มตัวอย่างให้ ความหมายในลกัษณะของภาพลักษณ์ความคิดเห็น หรือการกระทำ ที่ไม่ใช่สิ่งของที่สามารถจับต้อง ได้ 2.ความหมายของคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือกลุ่มตัวอย่างเข้าใจความหมายของคำศัพท์ ตามความหมายในภาษาเดิมเช่น คำว่า 「ライス」ในภาษาอังกฤษที่ใชกับข้าวที่หุงแล้วหรือข้าวที่ยัง ไม่ได้หุงได้แต่ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงข้าวที่หุงสุกแล้วเท่านั้นและ 3.ชนิดของคำที่มีความหมาย ใกล้เคียงกันซึ่งลักษณะความเข้าใจชนิดของคำ ผิดเนื่องจากมีอิทธิพลมากจากภาษาอังกฤษนั้น เป็น ผลการศึกษาที่ไม่ปรากฏในงานวิจัยใดมาก่อน (5) คำที่กลุ่มตัวอย่างมีแนวโน้ม เข้าใจผิดส่วนมากเป็น คำที่กลุ่มตัวอย่างอธิบายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้เป็นอากัปกิริยามากกว่าคำที่สามารถอธิบาย เป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้จากการศึกษานี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างสามารถเข้าใจความแตกต่างของคำที่มีความหมาย ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ปัจจัยด้านความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นและปัจจัยด้านประสบการณ์การใช้ ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้ม ส่งผลต่อความสามารถในการเลือกใช้ และความเข้าใจความแตกต่าง ระหว่างไกไรโงะและคำประเภทอื่นที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ปัจจัยด้านประสบการณ์การใช้ ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นที่แตกต่างกันจะพบมีผลต่อความเข้าใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีความรู้ทาง ภาษาญี่ปุ่นในระดับ N3 มากกว่ากลุ่มตวัอย่างที่มีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นระดับ N2166 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)ภาษาญี่ปุ่น -- ความแตกต่างภาษาญี่ปุ่นการศึกษาความเข้าใจความแตกต่างของไกโรโงะกับคำประเภทอื่นที่มีความหมายใกล้เคียงกันของผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยA Study about How Thai Students Learning Japanese Understand the Differences between Gairaigo and Their Japanese Synonyms.text--thesis--master thesis10.14457/NIDA.the.2017.156