สรศาสตร์ สุขเจริญสินวงศพัทธ์ บุญล้ำ2025-05-082025-05-082024https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7115วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์การเงิน))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2567งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนแบบเป็นระบบทั้งสาม ได้แก่ Dollar-Cost Averaging (DCA), Enhanced Dollar‐Cost Averaging (EDCA) และ Value Averaging (VA) ภายใต้สภาวะตลาดที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็นตลาดขาขึ้น (Bull Market) และตลาดขาลง (Bear Market) โดยใช้งานกองทุนรวมตราสารทุน 20 กองทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงปี พ.ศ. 2546-2564 เปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ตัวชี้วัดทางการเงินที่ครอบคลุม ทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง การประเมินใช้ XIRR อัตราส่วน Sharpe อัตราส่วน Sortino อัตราส่วน Calmar และ Max Drawdown รวมทั้งการวิเคราะห์ความเสถียรและความสม่ำเสมอของผลลัพธ์ผ่าน Rolling Window Analysis ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินกลยุทธ์ในบริบทของวัฏจักรเศรษฐกิจ ผลการศึกษาพบว่า EDCA มีประสิทธิภาพเหนือกว่าในตลาดขาลง ขณะที่ VA ให้ผลตอบแทนไกล้เคียงตลาดแต่มีความเสี่ยงต่ำกว่าดัชนีในตลาดขาขึ้น ทั้งนี้ กลยุทธ์ทั้งสองแบบมีประสิทธิภาพเหนือกว่ากลยุทธ์แบบ DCA ยืดหยุ่นต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ สะท้อนศักยภาพ กลยุทธ์แบบพลวัตในการรับมือความผันผวนเชิงระบบที่ดีในตลาดทุนไทย ผลการวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้ Repeated Measures ANOVA และ Friedman Test ยืนยันว่าความแตกต่างของผลตอบแทนและความเสี่ยงระหว่างกลยุทธ์มีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสามารถอธิบายได้ประมาณ 98-99% ของความแปรปรวนในผลตอบแทน งานวิจัยนี้จึงให้หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนแนวทางการวางกลยุทธ์การลงทุนที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะยาวในบริบทของตลาดทุนไทย113 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)วัฏจักรเศรษฐกิจกลยุทธ์พลวัตกองทุนรวมประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนถัวเฉลี่ยต้นทุนแบบประยุกต์Performance of applied cost-averaging investment strategiestext::thesis::master thesis