มาลัย หุวะนันทน์, อาจารย์ที่ปรึกษาทินพันธุ์ นาคะตะ2014-05-052014-05-051966http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1121วิทยานิพนธ์ (รป.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2509.วัตถุประสงค์ของวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ คือ.- 1. เป็นการศึกษาหน้าที่และความสัมพันธ์ของศาสนาที่มีต่อสังคมโดยทั่วไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าศาสนาเป็นสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อการบริหารอย่างไร 2. เพื่อแสดงว่าพุทธศาสนามีคุณค่าต่อสังคมโดยส่วนรวม มีอิทธิพลอยู่เหนือจิตใจและการประพฤติปฏิบัติของคนไทย 3. เพื่อศึกษาหลักธรรมที่สำคัญ ๆ ที่มีคุณค่าควรแก่การยึดถือเป็นหลักจริยธรรมในการบริหารทั้งในด้านการใช้ศิลปและเทคนิคในการปฏิบัติราชการ 4. เพื่อศึกษาถึงคุณค่าและอิทธิพลของพุทธปรัชญาที่มีต่อจริยธรรม และพฤติกรรมในการปกครองและการบริหารในทางปฏิบัติที่เป็นอยู่ ทั้งนี้เพื่อนำมาสู่ข้อสรุปที่ว่าพุทธศาสนามีคุณค่าต่อการบริหารของไทยอย่างไรบ้าง.ในวิทยานิพนธ์ ผู้เขียนได้ยกข้อเท็จจริงและเหตุผลต่าง ๆ ที่ส่งเสริมความสำคัญ 4 ประการของพุทธศาสนาดังกล่าว นอกจากนี้ผู้เขียนได้วิเคราะห์ถึงปัญหาบางประการที่มีอยู่ในสังคมไทย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์แก่การปรับปรุงแก้ไขให้ศาสนามีคุณค่าต่อสังคมยิ่งขึ้น ปัญหาเหล่านี้ได้แก่.- 1. ในการพัฒนาประเทศ เราขาดการพัฒนาในด้านจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นควรจะได้นำพุทธปรัชญามาเป็นคุณธรรมหรือจริยธรรมในการปกครองและการบริหารราชการ 2. มีความแตกต่างระหว่างพุทธปรัชญาในขั้นอุดมการณ์กับพุทธศาสนาในสังคมที่เรายึดถือไปปฏิบัติอยู่บ้าง 3. คนไทยส่วนมากยังเป็นพุทธศาสนิกชนแต่เพียงในนาม มิได้เคร่งครัดต่อการประพฤติปฏิบัติเท่าใดนัก 4. ประชาชนขาดความเข้าใจในหลักธรรมที่แท้จริง 5. วิธีการถ่ายทอดหลักธรรมยังคงใช้แบบเดิมที่ถือปฏิบัติกันมานานควรนำเอาเทคนิคและวิธีการสอนที่ทันสมัยมาใช้ 6. เวทมนต์คาถา ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีจิตอ่อนอย่างไรก็ดีผู้เขียนได้สรุปไว้ว่า คุณลักษณะพิเศษแห่งพุทธปรัชญาในด้านต่าง ๆ ตามที่ได้ศึกษามา แสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนามีคุณค่าต่อการยึดถือเป็นหลักในการทำงานและดำรงชีวิตอยู่มากที่สุด และเหมาะสมต่อการนำมาปรับปรุงคุณค่านิยม หรือพฤติกรรมในเชิงพิเศษบางอย่างได้เป็นอย่างดี.185 หน้า.application/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)BL 1453 ท35พุทธศาสนาคุณค่าของพุทธศาสนาในการบริหารราชการtext--thesis--master thesis10.14457/NIDA.the.1966.12