จุฑารัตน์ ชมพันธุ์เขมณัฏฐ์ รัตนนิกรเจริญ2023-05-122023-05-122018b207806https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6415วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2561การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อประเมินผลระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ รวมท้ังนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงระบบการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น การวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิง คุณภาพ (Qualitative Research) ที่ได้ประยุกต์ใช้ตัวแบบการประเมินผล CIPP Model มาเป็นกรอบ แนวคิดในการศึกษาและโดยปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับการประเมินผลระบบการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยมีองค์ประกอบที่นำมาพิจารณา 5 องค์ประกอบหลัก คือ บริบทโครงการ ปัจจัยในการเข้ากระบวนการผลผลิต และผลกระทบโดยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ เชิงลึก (In-depth Interviews) ร่วมกับการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม (Participatory Observation) กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ ควบคู่กับการวิจัยเอกสาร (Documentary Research)ผลการศึกษาโดยสรุป พบว่าด้านบริบทโครงการการจัดทำ EIA ในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัยสามารถปฏิบัติได้จริง และควรให้ความสำคัญกับจรรยาบรรณของผู้จัดทำ EIA รวมทั้งความต้องการและความกังวลใจของสมาชิกใน ชุมชน และศักยภาพในการรองรับการพัฒนาของพื้นที่ด้านปัจจัยนำเข้าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ จัดทำ EIA มีความรู้ความเข้าใจในขั้น ตอนและวิธีการจัดทำ EIA ยกเว้นสมาชิกในชุมชนที่ยังขาด ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ด้านกระบวนการควรมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ครบถ้วน และ เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางตลอดจนควรให้ ความสำคัญกับการนำความคิดเห็นของประชาชนไปสู่การปฏิบัติด้านผลผลิต หน่วยงานเจ้าของโครงการและบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการจัดทำรายงาน EIA ตามที่ระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง กำหนด และดำเนินการโดยนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาภายใต้การกำกับดูแลของ ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีข้อจำกัดการเข้าถึงรายงาน EIA ฉบับสมบูรณ์ ด้านผลกระทบ สมาชิกในชุมชนบางส่วนเกิดความไม่มั่นใจต่อความเป็นอิสระด้านวิชาการของบริษัทที่ปรึกษาในการ จัดทำ EIA แต่มีความมั่นใจในประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของบริษัท ที่ปรึกษารวมทั้งมี ความเห็นว่าการสร้างการมีส่วนร่วมและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ประชาชนมีความ มั่นใจต่อโครงการและอาจช่วยลดความขัดแย้งและทำให้โครงการกับสมาชิกในชุมชนสามารถอยู่ ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้นอกจากนี้ผลการศึกษาพบว่าการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ ขณะที่การขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและขาดความสนใจที่จะแสวงหาความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของโครงการและการที่หน่วยงานเจ้าของโครงการมักต้องการจะเก็บอำนาจการ ตัดสินใจในประเด็นสำคัญ ๆ เอาไว้เองแทนการกระจายอำนาจให้กับชุมชนอาจเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญในกระบวนการจัดทำ EIA ของโครงการ ส่วนข้อเสนอแนะสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย ภาครัฐควรปรับปรุงขอ้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำ EIA และควรให้ความสำคัญ อย่างสูงกับการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยมีการกำกับดูแลทั้งในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ หน่วยงานที่รับผิดชอบ โครงการพัฒนาและบริษัทที่ปรึกษาควรยกระดับความสำคัญ ของการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของ กระบวนการจัดทำ EIA และควรให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณด้านการมีส่วนร่วมของ ประชาชนให้มากขึ้นให้สอดคล้องกับ จำนวนพื้นที่หรือสมาชิกในชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบ และ สมาชิกในชุมชน ควรมีการเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอในการเข้าร่วมกระบวนการมีส่วนร่วม กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและควรกำหนดให้มีหน่วยงานที่เป็นกลางทำหน้าที่ในการจัดจ้างที่ปรึกษาในการจัดทำ EIA193 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมรถไฟฟ้า -- ไทย -- กรุงเทพฯการประเมินผลระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย กรณีศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทองEvaluation of the environmental impact assessment system in Thailand : a case study of the gold line minor mass transit systemtext--thesis--master thesis10.14457/NIDA.the.2018.134