พัชนี เชยจรรยาธัญณิชา กิตติธนคุณานันต์2025-04-252025-04-252024https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7105วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2567งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของการรีวิวร้านชาบู หม่าล่าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดย PEACH EAT LAEK ที่มีผลต่อคุณค่าของตราสินค้าและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภค การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทย จำนวน 400 คน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าครึ่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อายุ 21-30 ปี เพศหญิง และมีการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากการทดสอบสมติฐานพบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของรีวิว ได้แก่ ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ความน่าไว้วางใจ (Trustworthiness) และความน่าดึงดูดใจ (Attractiveness) ของผู้รีวิว นอกจากนี้ ความน่าเชื่อถือของรีวิวมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ คุณค่าของตราสินค้า (Brand Equity) ในด้านการรู้จักตราสินค้า (Brand Awareness) การเชื่อมโยงกับตราสินค้า (Brand Association) คุณภาพที่ถูกรับรู้ (Perceived Quality) และความภักดีต่อตราสินค้า (Brand Loyalty) ยิ่งไปกว่านั้น คุณค่าของตราสินค้ายังมีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อ (Purchase Intention) ของผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารในการเลือกผู้รีวิวที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างคุณค่าของตราสินค้า รวมถึงช่วยวางกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรม125 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)การรีวิวร้านชาบูหม่าล่าPEACH EAT LAEKรีวิวออนไลน์ความตั้งใจซื้อชาบูหมาล่าตราสินค้าผู้บริโภคสื่อสังคมออนไลน์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของการรีวิวร้านชาบูหม่าล่าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดย PEACH EAT LAEK กับคุณค่าของตราสินค้าและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคFactors influencing the credibility of Mala Shabu restaurant reviews on social media by PEACH EAT LAEK and their impact on brand equity and consumers’ purchase intentiontext::thesis::master thesis10.14457/NIDA.the.2024.46