พลอย สืบวิเศษจุฑามาศ พูลสวัสดิ์2023-02-242023-02-242019b208792https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6319วิทยานิพนธ์ (รป.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2562การวิจัยนี้มีวตัถุประสงค์1) เพื่อศึกษาบทบาทและสภาพความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และสถาบันอาชีวศึกษาในการจัดการศึกษาและแนะแนว เพื่อส่งเสริมการศึกษาต่อสายอาชีพของนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต 2) เพื่อศึกษาผลของการแนะแนวที่ จัดขึ้นโดยภาคส่วนต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อสายอาชีพของนักเรียนในจงัหวัดภูเก็ต และ 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกบัแต่ละพื้นที่การวิจัยคร้ังนี้ใช้วิธีวิจัยที่ ผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ (Mixed Methodology) สำหรับการ วิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยศึกษาข้อมูลจากเอกสารประกอบกับการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาจากแต่ละภาคส่วน ได้แก่ศึกษาธิการจังหวัด ภูเก็ต รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ประธานและเลขาธิการสภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการสถาบัน อาชีวศึกษาในจังหวัด 4 แห่ง และนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ช้ันปีที่1ของ สถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดภูเก็ต ด้านการวิจัยเชิงปริมาณใช้วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามแสดงปัจจัยที่มีผลต่อการศึกษาต่ออาชีวศึกษาของประชากรกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็น นักเรียนระดับประกาศนียบตัรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่1ของสถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดภูเก็ต โดยสุ่มตัวอย่างจำนวน 338 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)ผลการวิจัยพบว่า 1) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ตมีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแล บูรณาการ และ สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัด ด้านเทศบาลนครภูเก็ตในฐานะองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการส่งเสริมให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลทา กิจกรรมด้านทักษะ อาชีพ สภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ตมีบทบาทที่เด่นชัดในฐานะผู้ริเริ่มปฏิรูปการจัดการศึกษาเพื่อ ส่งเสริมการมีอาชีพ และเชื่อมโยงภาคส่วนในจังหวัดให้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนโครงการและกิจกรรม ต่างๆ ด้านสถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดมีบทบาทจัดหลักสูตรการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรที่มีทักษะ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ท้ังนี้ผลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกถึงสภาพความ ร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในการจัดการศึกษาและแนะแนว พบว่า ศักยภาพในการระดมความ ร่วมมือของสภาการศึกษาจงัหวัดภูเก็ตนับเป็นจุดแข็งที่ทา ให้การดำเนินงานนี้ประสบความสำเร็จ อย่างเป็นรูปธรรม โดยสัดส่วนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 โรงเรียนสังกัดต่างๆ ที่เข้าศึกษาต่อ ในสถาบันอาชีวศึกษา ปีการศึกษา 2560 – 2561 อยู่ที่ร้อยละ 46.39 และร้อยละ 44.65 ตามลำดับ ซึ่ง เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลขณะที่นักเรียนระดับ ปวช. ชั้นปีที่1 มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าการจัดหลัก สูตรเตรียมความพร้อมและการแนะแนวที่แต่ละภาคส่วนได้จัดขึ้น ส่งผลให้นักเรียนตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษา 2)ผลของการแนะแนวที่จัดขึ้นโดยภาคส่วนต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อสายอาชีพของนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต พบว่า มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก นอกจากนี้การที่นักเรียนได้เข้าร่วมมหกรรมแนะแนว “เปิดโลกสัมมาชีพ” ที่ภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดขึ้นยังมีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสายอาชีพของนักเรียนอยู่ในระดับมาก150 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)ความร่วมมือการประสานงานของส่วนราชการ -- ไทยการศึกษาบทบาทและสภาพความร่วมมือระหว่างภาครัฐส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และสถาบันอาชีวศึกษาของจังหวัดภูเก็ตThe study of the role and the cooperation between government sector, local administrative organization, civil society and vocational education institutions in Phuket in promoting vocational educationtext--thesis--master thesis10.14457/NIDA.the.2019.71