จุฑามาศ แก้วพิจิตรณัฐชนันท์พร ทิพย์รักษา2014-05-052014-05-052013b180467http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/643วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเกี่ยวข้องกันในเชิงเหตุและผลของตัวแปร 3 ตัว คือ แรงจูงใจในการทํางาน ความบ้างาน และความสุขในการทํางาน และเพื่อศึกษาความแตกต่าง ของตัวแปรทั้ ง 3 ระหว่างพนักงานที่ทํางานขององค์กรไทย และองค์กรต่างประเทศที่อยู่ในประเทศ ไทย โดยทําการศึกษาพนักงานใน 3 องค์กร คือ องค์กรไทย องค์กรญี่ปุ่น และองค์กรอังกฤษ จํานวนตัวอย่างทั้งหมด 553 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลด้วย การหาสถิติพรรณนาลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง และหาสถิติอนุมานเพื่อทดสอบความแตกต่างหรือ ความแปรปรวนของความสุขในการทํางานตามระดับแรงจูงใจในการทํางานและและความบ้างาน ผลการศึกษาพบว่า (1)แรงจูงใจในการทํางานส่งผลต่อความบ้างานของพนักงานอย่าง ชัดเจน โดยพบว่า พนักงานที่มีแรงจูงใจมากมีความบ้างานมากกว่าพนักงานที่แรงจูงใจน้อย พบผล เช่นเดียวกันนี้ทั้ งในกลุ่มพนักงานทั้ งหมด และในกลุ่มย่อยองค์กรไทย องค์กรญี่ปุ่น และองค์กร อังกฤษ (2)แรงจูงใจในการทํางานส่งผลต่อความสุขในการทํางานของพนักงานอย่างชัดเจน โดย พบว่า พนักงานที่มีแรงจูงใจมากมีความบ้างานมากกว่าพนักงานที่ มีแรงจูงใจน้อย พบเช่นเดียวกัน ทั้ งในกลุ่มพนักงานทั้งหมด และในแต่ละองค์กรทั้ งองค์กรไทย องค์กรญี่ปุ่น และองค์กรอังกฤษ (3) ความบ้างานกับความสุขในการทํางาน พบว่าความบ้างานไม่ส่งผลต่อความสุขโดยรวม แต่เมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเป็ นรายด้านพบว่า พนักงานที่มีความบ้างานมีความสุขในการทํางานด้าน ผ่อนคลายดี (Happy Relax) และด้านการงานดี ( Happy Work-Life) นอกจากนี้การวิเคราะห์ในแต่ ละองค์กร พบว่าในองค์กรไทยพนักงานที่มีความบ้างานมากมีความสุขในการทํางานโดยรวม มากกว่าพนักงานที่มีความบ้างานน้อย แต่ไม่พบผลดังกล่าวในองค์กรญี่ปุ่ น และองค์กรอังกฤษ207 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)แรงจูงใจในการทำงาน ความบ้างาน และความสุขในการทำงานWork motivation, workaholism and work happinesstext--thesis--master thesis