สุพรรณี ไชยอำพรบารมี พานิช2019-01-292019-01-292016b196942http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4131วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การบริหารการพัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษารูปแบบและขั้นตอนการขับเคลื่อน ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต ในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาทัศนะต่อการนํากฎหมาย ร่าง พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต ของประชาชนในสังคมไทยมาใช้ การศึกษาใช้ กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเน้นสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับผู้ให้ข้อมูลที่สําคัญ 25 ราย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้หลักตรรกะเทียบเคียงกับแนวคิด ทฤษฎีควบคู่กับบริบทและใช้สถิติเชิง พรรณนาประกอบผลการศึกษาพบว่า1) รูปแบบและขั้นตอนการขับเคลื่อน ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต ใน ประเทศไทย พบว่าเป็นลักษณะการประกอบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใน กฎหมายในระดับการขับเคลื่อนตามรูปแบบสันติวิธีตามจารีตกฎหมาย กล่าวคือมีในระดับประเทศ โดยยึดหลักการและเหตุผลทางกฎหมาย ไม่มีการใช้ความรุนแรงและเคารพระเบียบแนวทางการ จัดทํากฎหมายตามข้อกําหนดของรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการพิจารณาแบบเป็นทางการ2) ทัศนะของการประกาศใช้กฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต ของประชาชนในสังคมไทย ประกอบไปด้วย ทัศนะความคิดเห็นที่ผ่านมาจากการใช้เหตุผลของบุคคลผู้ที่ให้ข้อมูลที่สําคัญต่อประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1) ทัศนะต่อความจําเป็นของการมีกฎหมายการสมรสของ บุคคลเพศเดียวกัน 2) ทัศนะต่อความพร้อมในการนํากฎหมายการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันมา ประกาศใช้ 3) ทัศนะต่อการยอมรับกฎหมายการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันจากสาธารณชน 4) ทัศนะต่อความจริงจังของภาครัฐในการนํากฎหมายการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันมาใช้จริง และ 5) ทัศนะต่อผลกระทบจากร่างพระราชบัญญัติ การจดทะเบียนคู่ชีวิตต่อครอบครัวและสังคมไทย ซึ่งพบว่าผู้ที่ให้ข้อมูลสําคัญนั้น ล้วนแล้วแต่ทราบถึงผลกระทบของการไม่ได้รับความ คุ้มครองจากกฎหมาย ทําให้เกิดผลเสียตามมา และสนับสนุนการขับเคลื่อนกฎหมายร่าง พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิตได้อย่างจริงจัง โดยผ่านระบบเครือข่ายที่มีอยู่ในหน่วยงาน กลุ่ม องค์การหลายภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างสม่ําเสมอข้อเสนอแนะสําคัญคือการร่วมสร้างแนวทางการป้องกันแก้ไขและพัฒนาด้านนโยบายได้แก่ภาคประชาสังคมควรส่งเสริมความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศโดย หน่วยงานรัฐและเอกชนหรือองค์การทางกฎหมาย และสถาบันการศึกษาต้องร่วมพัฒนาความเท่า เทียมของมนุษย์ และสถาบันครอบครัวถือเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาด้านการปลูกฝังทัศนคติที่ เข้าใจต่อความแตกต่างหลากหลายของเพศสภาพ ตลอดจนด้านวิชาการ ควรร่วมสร้างองค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศสภาพ ของสังคมมนุษย์อย่างยั่งยืน256 เเผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)การจดทะเบียนสมรสรูปแบบและขั้นตอนการขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิตในประเทศไทยForms and procedures driven bill of same-sex marriage in Thailandtext--thesis--master thesis10.14457/NIDA.the.2016.191