การประเมินผลการดำเนินงานกองทุนยาและเวชภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน
Publisher
Issued Date
1994
Issued Date (B.E.)
2537
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
13, 99 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สมจิตร เหลืองสุวรรณ (1994). การประเมินผลการดำเนินงานกองทุนยาและเวชภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1707.
Title
การประเมินผลการดำเนินงานกองทุนยาและเวชภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน
Alternative Title(s)
An evaluation of village drug funds operation
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
กองทุนยาและเวชภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน เป็นผลที่เกิดจากกระบวนการในการที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการแก้ไขปัญหา ความขาดแคลนยาจำเป็นของหมู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นผู้ให้การสนับสนุน จากการดำเนินงานกองทุนยาฯ ตั้งแต่ปี 2520 จนถึงปัจจุบันการสนับสนุนกองทุนยาฯ โดยภาครัฐครอบคลุมพื้นที่จำนวน 62,986 หมู่บ้าน แต่ประชาชนสามารถจัดตั้งกองทุนยาฯ ได้เพียง 35,819 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 56.87 จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าจำนวนกองทุนยาฯ ที่จัดตั้งไม่ได้ตามเป้าหมายที่จังหวัดได้รับงบประมาณไป การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อศึกษาสถานภาพของกองทุนยาฯ และปัจจัยที่มีผลต่อสัมฤทธิผลของการดำเนินงานกองทุนยาฯ ตลอดจนเสนอแนวทางปรับปรุงการดำเนินงานกองทุนฯ ที่เหมาะสมโดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์กลุ่มตัวอย่าง จากกรรมการขายยา 158 คน ประชาชน 487 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับตำบล 59 คน ใน 12 จังหวัดของ 12 เขต ราชการส่วนภูมิภาคของกระทรวงสาธารณสุข ผลจากการศึกษาพบว่า มีกองทุนยาฯ ที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ 60 สาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทุนยาฯ ไม่ผ่านเกณฑ์การคงสภาพ ได้แก่ การที่กรรมการขายยาเบื่อหน่ายเพราะต้องขายยาคนเดียวเป็นเวลานาน และเมื่อมีปัญหา เจ้าหน้าที่ไม่ไปติดตามให้กำลังใจหรือช่วยแก้ไขหรือเมื่อยาในกองทุนยาฯ หมด กรรมการขายยาต้องไปซื้อยาด้วยตนเอง เสียเวลารอนานอีกทั้งยาที่ต้องการซื้อไม่มีจำหน่าย นอกจากนั้นการจัดทำบัญชีเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก กรรมการกองทุนยาฯ ไม่เข้าใจวิธีการทำ มีรายละเอียดมากเกินไป บางกองทุนยาฯ ตั้งอยู่ไกลจากชุมชน บางแห่งขายยาเฉพาะเวลากลางวัน ชาวบ้านจึงไม่นิยมซื้อ จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้กองทุนยาฯ บางส่วนต้องหยุดดำเนินการไป.
ในส่วนของการจัดองค์กรและการประสานงานกองทุนยาฯ นั้น กองทุนยาฯ ส่วนใหญ่มีการจัดตั้งกรรมการ โดยมีรายชื่อกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ระหว่าง 5-15 คน แต่มีบทบาทอย่างต่อเนื่องเพียง 2-4 คนหรือบางแห่งมีเพียงผู้ขายยาคนเดียวเท่านั้น การที่กองทุนยาฯ จะดำเนินงานไปได้ดีหรือไม่นั้นส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับความสามารถของกรรมการ และการยอมรับของชาวบ้านและผู้นำชุมชน ส่วนการประสานงานระหว่างกรรมการของกองทุนยาฯ นั้น พบว่ามีการประชุมไม่สม่ำเสมอถึงร้อยละ 58.8 เนื่องจากมีกรรมการเพียง 2-4 คน จึงไม่จำเป็นต้องประชุมอย่างเป็นทางการก็สามารถทราบความเป็นไปของการดำเนินงาน รวมทั้งถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถช่วยกันแก้ไขได้ สำหรับการนิเทศติดตามการดำเนินงานกองทุนยาฯ ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนั้น เนื่องจากมีอุปสรรคหลายประการ ทั้งด้านขาดอัตรากำลังและปริมาณงานที่ต้องทำมีมาก อีกทั้งบางครั้งก็มีงานอื่นที่สั่งการไปจากหน่วยงานระดับสูง ทำให้ต้องเร่งรัดงานเฉพาะหน้าให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายหรือตามนโยบายที่ระดับสูงสั่งการไป ในการศึกษาครั้งนี้ กองทุนยาฯ ขาดการติดตามต่อเนื่องจึงทำให้กองทุนยาฯ ต้องหยุดดำเนินการไป ดังนั้นเมื่อตั้งกองทุนยาฯ ได้ในระยะแรกแล้ว หากเจ้าหน้าที่ไม่ไปกระตุ้นหรือออกติดตามนิเทศให้คำแนะนำหรือให้กำลังใจ อาจทำให้เกิดปัญหาการไม่เข้าใจในการบริหารงานจัดการกองทุน เพราะกรรมการยังขาดประสบการณ์ ดังนั้นการดำเนินงานและการอยู่รอดของกองทุนยาฯ จะต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกติดตามอย่างต่อเนื่อง.
ผลจากการศึกษาครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงการดำเนินงานกองทุนยาฯ ดังต่อไปนี้
2. ระบบบัญชีกองทุนยาฯ ควรจัดทำบัญชีรับ-จ่ายแบบง่าย ๆ สามารถตรวจสอบได้
3. ระบบการสนับสนุนยาและกองทุนยาฯ ควรปรับปรุงเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบและวิธีปฏิบัติในการสนับสนุนยาแก่กองทุนยาฯ โดยให้ถือปฏิบติและรับผิดชอบตั้งแต่จังหวัด อำเภอ ตำบล มีการจัดคลังสำรองยาและเวชภัณฑ์ระดับจังหวัด อำเภอ เพื่อสนับสนุนกองทุนยาฯ และขยายตัวแทนจำหน่ายยาสามัญประจำบ้านระดับอำเภอให้มากขึ้น
4. การอบรมฟื้นฟูความรู้ของกรรมการกองทุนยาฯ ควรมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ยา การบริหารและการดำเนินงานกองทุนยาฯ ไว้ในหลักสูตรการอบรมต่อเนื่องของอสม. ในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.)
5. การติดตามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับตำบลจะต้องทำการอบรม อสม.ต่อเนื่องทุกเดือน และทำการนิเทศไปด้วย จะทำให้ทราบถึงการดำเนินงานและสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นระยะ ๆ และยังเป็นการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
6. กระทรวงสาธารณสุขควรมีการทบทวนนโยบายการจัดหายาจำเป็นไว้ในชุมชนให้สามารถปรับแนวทางได้ เพื่อเป็นการเปิดกว้างและให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตที่เป็นจริงของชุมชน
ในส่วนของการจัดองค์กรและการประสานงานกองทุนยาฯ นั้น กองทุนยาฯ ส่วนใหญ่มีการจัดตั้งกรรมการ โดยมีรายชื่อกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ระหว่าง 5-15 คน แต่มีบทบาทอย่างต่อเนื่องเพียง 2-4 คนหรือบางแห่งมีเพียงผู้ขายยาคนเดียวเท่านั้น การที่กองทุนยาฯ จะดำเนินงานไปได้ดีหรือไม่นั้นส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับความสามารถของกรรมการ และการยอมรับของชาวบ้านและผู้นำชุมชน ส่วนการประสานงานระหว่างกรรมการของกองทุนยาฯ นั้น พบว่ามีการประชุมไม่สม่ำเสมอถึงร้อยละ 58.8 เนื่องจากมีกรรมการเพียง 2-4 คน จึงไม่จำเป็นต้องประชุมอย่างเป็นทางการก็สามารถทราบความเป็นไปของการดำเนินงาน รวมทั้งถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถช่วยกันแก้ไขได้ สำหรับการนิเทศติดตามการดำเนินงานกองทุนยาฯ ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนั้น เนื่องจากมีอุปสรรคหลายประการ ทั้งด้านขาดอัตรากำลังและปริมาณงานที่ต้องทำมีมาก อีกทั้งบางครั้งก็มีงานอื่นที่สั่งการไปจากหน่วยงานระดับสูง ทำให้ต้องเร่งรัดงานเฉพาะหน้าให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายหรือตามนโยบายที่ระดับสูงสั่งการไป ในการศึกษาครั้งนี้ กองทุนยาฯ ขาดการติดตามต่อเนื่องจึงทำให้กองทุนยาฯ ต้องหยุดดำเนินการไป ดังนั้นเมื่อตั้งกองทุนยาฯ ได้ในระยะแรกแล้ว หากเจ้าหน้าที่ไม่ไปกระตุ้นหรือออกติดตามนิเทศให้คำแนะนำหรือให้กำลังใจ อาจทำให้เกิดปัญหาการไม่เข้าใจในการบริหารงานจัดการกองทุน เพราะกรรมการยังขาดประสบการณ์ ดังนั้นการดำเนินงานและการอยู่รอดของกองทุนยาฯ จะต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกติดตามอย่างต่อเนื่อง.
ผลจากการศึกษาครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงการดำเนินงานกองทุนยาฯ ดังต่อไปนี้
2. ระบบบัญชีกองทุนยาฯ ควรจัดทำบัญชีรับ-จ่ายแบบง่าย ๆ สามารถตรวจสอบได้
3. ระบบการสนับสนุนยาและกองทุนยาฯ ควรปรับปรุงเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบและวิธีปฏิบัติในการสนับสนุนยาแก่กองทุนยาฯ โดยให้ถือปฏิบติและรับผิดชอบตั้งแต่จังหวัด อำเภอ ตำบล มีการจัดคลังสำรองยาและเวชภัณฑ์ระดับจังหวัด อำเภอ เพื่อสนับสนุนกองทุนยาฯ และขยายตัวแทนจำหน่ายยาสามัญประจำบ้านระดับอำเภอให้มากขึ้น
4. การอบรมฟื้นฟูความรู้ของกรรมการกองทุนยาฯ ควรมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ยา การบริหารและการดำเนินงานกองทุนยาฯ ไว้ในหลักสูตรการอบรมต่อเนื่องของอสม. ในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.)
5. การติดตามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับตำบลจะต้องทำการอบรม อสม.ต่อเนื่องทุกเดือน และทำการนิเทศไปด้วย จะทำให้ทราบถึงการดำเนินงานและสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นระยะ ๆ และยังเป็นการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
6. กระทรวงสาธารณสุขควรมีการทบทวนนโยบายการจัดหายาจำเป็นไว้ในชุมชนให้สามารถปรับแนวทางได้ เพื่อเป็นการเปิดกว้างและให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตที่เป็นจริงของชุมชน
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2537.