ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาและการตกทอดทรัพย์สินของพระภิกษุ
Files
Publisher
Issued Date
2014
Issued Date (B.E.)
2557
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
99 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
b185202
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
จตุรนต์ ชุ่มชุมภู (2014). ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาและการตกทอดทรัพย์สินของพระภิกษุ. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3145.
Title
ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาและการตกทอดทรัพย์สินของพระภิกษุ
Alternative Title(s)
The property relations between husband and wife and the devolution of Asset and estate of monk
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาจะต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีผลใช้บังคับใน
ขณะนั้นซึ่งประมวลกฎหมายที่บัญญัติให้บังคับใช้ในปัจจุบันนั้นคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ดังนั้นเมื่อสมรสถูกต้องตามกฎหมายและถ้าหากภายหลังสามีอุปสมบทเป็นพระภิกษุความสัมพันธ์ทาง
ทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาก็ยังคงมีผลบังคับใช้เนื่องจากว่ากฎหมายมิได้บัญญัติให้การสมรสเป็นอัน
สิ้นสุดเพราะสามีอุปสมบทจึงมีประเด็นเรื่องการตกทอดทรัพย์สินของพระภิกษุตามมาตรา 1623 โดย
วางหลักไว้ว่าทรัพย์สินที่พระภิกษุได้มาในระหว่างอุปสมบทเมื่อภายหลังท่านมรณภาพให้ทรัพย์สินตก
เป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลาเนาของพระภิกษุ ดังนั้นทรัพย์สินที่ได้มาภายหลังอุปสมบทนั้นอาจแยก
ตามความเป็นจริงนั้นคือได้ทรัพย์สินมาจากการทาบุญตามพระพุทธศาสนาและได้ทรัพย์สินมาโดยไม่
เกี่ยวกับการทาบุญตามพระพุทธศาสนาอย่างเช่นการได้รับมรดกจากบิดามารดาหรือการได้มาโดย
เสน่หาโดยได้มาไม่เกี่ยวกับการนับถือเป็นพระภิกษุ และเมื่อภายหลังพระภิกษุมรณภาพนั้นโดยผล
กฎหมายปัจจุบันบัญญัติให้ทรัพย์สินดังที่ได้อธิบายมาข้างต้นนี้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลาเนาของ
พระภิกษุทั้งหมด ซึ่งประเด็นการตกทอดทรัพย์สินในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานี้น่าจะไม่เป็น
ธรรมกับทายาทโดยธรรมของพระภิกษุที่กฎหมายบัญญัติให้ทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่เกี่ยวกับ
พระพุทธศาสนาตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลาเนาของพระภิกษุตามมาตรา 1623 บทกฎหมาย
ดังกล่าวนี้เชื่อว่ามีที่มาจากแนวความคิดในกฎหมายดังเดิมของไทยคือกฎหมายตราสามดวง
ดังนั้นจึงต้องศึกษากฎหมายในอดีตคือกฎหมายตราสามดวงที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามี
ภรรยาในกรณีที่สามีอุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยกฎหมายที่บัญญัติไว้ในประเด็นดังกล่าวนั้นคือ
กฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะกฎหมายตราสามดวงอย่างเช่น กฎหมายลักษณะผัวเมีย
ในบทที่ 38 ที่วางหลักให้สินเดิมและสินสมรสตกเป็นของภรรยาและการสมรสเป็นอันสิ้นสุดนับตั้งแต่
สามีได้อุปสมบทแล้ว ซึ่งในประเด็นทรัพย์สินตามกฎหมายลักษณะผัวเมียเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามีที่
ได้มาก่อนอุปสมบทนั้นตกเป็นของภรรยาทั้งหมดนับตั้งแต่ได้อุปสมบท และเมื่ออุปสมบทแล้วทรัพย์สิน
ที่พระภิกษุได้มาในระหว่างอุปสมบทนั้นโดยผลของกฎหมายนั้นถือว่าเป็นทรัพย์สินของพระภิกษุ
โดยเฉพาะและถ้าหากพระภิกษุมรณภาพทรัพย์สินที่ได้มาภายหลังอุปสมบททั้งหมดตกเป็นสมบัติของ
วัดที่เป็นภูมิลาเนาของพระภิกษุตามกฎหมายตราสามดวงในลักษณะของกฎหมายลักษณะมรดกในบท
ที่ 36
แต่เนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันได้นากฎหมายในอดีตมาบังคับใช้เพียงบางส่วนเท่านั้น ฉะนั้น
จึงมีประเด็นที่กฎหมายในปัจจุบันได้วางหลักไว้แตกต่างจากฎหมายในอดีตนั้นคือประเด็นเรื่องการ
สิ้นสุดการสมรสและประเด็นเรื่องการตกทอดทรัพย์สินในกรณีที่สามีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ดังนั้น
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแบ่งทรัพย์สินของพระภิกษุในปัจจุบันจึงมีข้อเสนอแนะว่าถ้าหาก
ภรรยาไม่ต้องการอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาก็ควรอ้างเหตุของการฟ้องหย่าได้ตามมาตรา 1516 อนุ (4)
ซึ่งเมื่อการสมรสเป็นอันสิ้นสุดก็ต้องแบ่งสินสมรสตามกฎหมาย และในประเด็นการตกทอดทรัพย์สิน
ตามมาตรา 1623 นั้นก็ควรต้องแยกทรัพย์สินที่พระภิกษุได้มาระหว่างอุปสมบทว่าเป็นทรัพย์สินที่
ได้มาเนื่องจากความเป็นพระภิกษุที่มีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาถวายแก่พระในฐานะผู้สืบทอด
พระพุทธศาสนาทรัพย์สินในส่วนนี้เท่านั้นที่สมควรตกทอดแก่วัดที่เป็นภูมิลาเนาของพระภิกษุ และ
เฉพาะในส่วนทรัพย์สินที่ได้มาจากความสัมพันธ์ทางเครือญาติเช่นจากการตกทอดมรดกของบิดา
มารดาตามมาตรา 1622 หรือทรัพย์สินที่ได้มาโดยเสน่หาโดยไม่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเช่น ศาสนิก
ชนหรือเครือญาติให้ความเคารพเป็นการส่วนตัวยกทรัพย์สินให้ซึ่งทรัพย์สินในส่วนนี้ก็ควรตกเป็น
ทรัพย์มรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของพระภิกษุ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557