การสื่อสารการตลาด และตราสินค้าผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ตในทัศนะของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร
Publisher
Issued Date
2014
Issued Date (B.E.)
2557
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
163 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
ba187877
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
รัตประภา เหมจินดา (2014). การสื่อสารการตลาด และตราสินค้าผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ตในทัศนะของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3604.
Title
การสื่อสารการตลาด และตราสินค้าผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ตในทัศนะของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร
Alternative Title(s)
Marketing communications and grand sport's brand toward attitude of population in Bangkok
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ลักษณะทางประชากรของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ชุดกีฬา 2) ทัศนคติของประชากรต่อผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ต 3) การเปิดรับด้านการสื่อสารการตลาดของผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ต 4) ความสัมพันธ์ของการเปิดรับ และการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาดของผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ต และความสัมพันธ์ของการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาด และทัศนคติต่อผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ตของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร
การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญในสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง สถานที่ละ 80 ตัวอย่าง จากสาขาของแกรนด์สปอร์ต และห้างสรรพสินค้าที่จาหน่ายผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาของแกรนด์สปอร์ต ใช้ค่าสถิติ ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า T-test ค่า F-test และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการศึกษาวิจัย พบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อยู่ในกลุ่มอายุ 21-30 ปี เป็นโสด มีรายได้ต่อเดือน 10,000-20,000 บาท 2. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี นิยมออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และมีความถี่ในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายต่อเดือน 3-4 ครั้ง 3. ผู้ตอบแบบสอบถามมีการเปิดรับข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาด เช่น การเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และการโฆษณา ในระดับมาก 4. ผู้ตอบแบบสอบถามมีการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาดในระดับมาก 5. ผู้ตอบแบบสอบถามมีทัศนคติเห็นด้วยต่อปัจจัยต่าง ๆ โดยรวมของผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ต เช่น ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการสื่อสารการตลาด ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและด้านการสื่อสารตราสินค้า 6. ลักษณะทางประชากรที่แตกต่างกัน เช่น อายุ สถานภาพ มีการเปิดรับข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาดที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 7. ลักษณะทางประชากรที่แตกต่างกัน เช่น เพศ อายุ มีการรับรู้ข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาดที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 8. การเปิดรับด้านการสื่อสารการตลาด เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การขายโดยบุคคล การตลาดทางตรง การจัดกิจกรรมทางการตลาด การเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาด การตลาดเพื่อสังคม และการตลาดออนไลน์ มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาดของประชากรในเขตกรุงเทพมหานครระดับปานกลาง 9. การรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาด มีความสัมพันธ์กับทัศนคติด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา และด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในระดับปานกลาง 10. การรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาด มีความสัมพันธ์กับทัศนคติด้านการสื่อสารการตลาด และด้านการสื่อสารตราสินค้าในระดับต่ำ
ผลการศึกษาวิจัย พบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อยู่ในกลุ่มอายุ 21-30 ปี เป็นโสด มีรายได้ต่อเดือน 10,000-20,000 บาท 2. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี นิยมออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และมีความถี่ในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายต่อเดือน 3-4 ครั้ง 3. ผู้ตอบแบบสอบถามมีการเปิดรับข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาด เช่น การเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และการโฆษณา ในระดับมาก 4. ผู้ตอบแบบสอบถามมีการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาดในระดับมาก 5. ผู้ตอบแบบสอบถามมีทัศนคติเห็นด้วยต่อปัจจัยต่าง ๆ โดยรวมของผลิตภัณฑ์ชุดกีฬาแกรนด์สปอร์ต เช่น ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการสื่อสารการตลาด ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและด้านการสื่อสารตราสินค้า 6. ลักษณะทางประชากรที่แตกต่างกัน เช่น อายุ สถานภาพ มีการเปิดรับข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาดที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 7. ลักษณะทางประชากรที่แตกต่างกัน เช่น เพศ อายุ มีการรับรู้ข่าวสารด้านการสื่อสารการตลาดที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 8. การเปิดรับด้านการสื่อสารการตลาด เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การขายโดยบุคคล การตลาดทางตรง การจัดกิจกรรมทางการตลาด การเป็นผู้สนับสนุนทางการตลาด การตลาดเพื่อสังคม และการตลาดออนไลน์ มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาดของประชากรในเขตกรุงเทพมหานครระดับปานกลาง 9. การรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาด มีความสัมพันธ์กับทัศนคติด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา และด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในระดับปานกลาง 10. การรับรู้ด้านการสื่อสารการตลาด มีความสัมพันธ์กับทัศนคติด้านการสื่อสารการตลาด และด้านการสื่อสารตราสินค้าในระดับต่ำ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557.