แนวทางการพัฒนาระบบ กลไก การบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
Publisher
Issued Date
2012
Issued Date (B.E.)
2555
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
103 แผ่น ; 30 ซม.
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
บุศรา สาระเกษ (2012). แนวทางการพัฒนาระบบ กลไก การบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/511.
Title
แนวทางการพัฒนาระบบ กลไก การบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
Alternative Title(s)
The guidelines of system and mechanism development for research management of Rajabhat Universities
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาครึ่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพปัจจุบัน ความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ กลไกการบริหารจัดการงานวิจัยในมหาวิทยาลัยราชภัฏ และปัจจัยที่มีผลต่อความ ต้องการในการพัฒนาระบบกลไกการบริหารงานวิจัย รวมทั้ง ศึกษาปัญหาอุปสรรคและ ข้อเสนอแนะในการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการงานวิจัย เพื่อนำไปเป็นแนวทางปรับปรุง ระบบกลไกการบริหารจัดการงานวิจัยให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และครอบคลุมตามความ ต้องการของผู้ปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ศึกษาโดยการสํารวจ (Survey) อาจารย์นักวิจัยในมหาวิทยาลัย ราชภัฏ 40 แห่ง ใช้ขนาดต้วอย่างทั้งสิ้น 390 คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิสองขั้น (Two– Stage Stratified Sampling) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณาและวิเคราะห์การถดถอย (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษาพบว่าสภาพการบริหารจัดการงานวิจัยปัจจุบัน ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ตามวงจร PDCA สามารถปฏิบัติได้ในระดับดีการกําหนดยุทธศาสตร์นโยบาย แผนงานเป้าหมายของการบริหารงานวิจัย สามารถทําได้ค่อนขางชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการวิจัย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งมาตรฐานการศึกษาและตัวบ่งชี้คุณภาพ แต่ที่สามารถปฏิบัติไดในระดับปานกลาง ไดแก้ การมีส่วนรวมในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์สนับสนุนการวิจัยของคณาจารย์และการสนับสนุนห้องปฏิบัติการ วิจัย หน่วยวิจัย หรือศูนย์เครื่องมือสนับสนุนการวิจัย การให้รางวัล ค่าตอบแทน กับนักวิจัยในการตีพิมพ์เผยแพร่การรวบรวม คัดสรร วิเคราะห์สังเคราะห์ความรู้จากงานวิจัย เพื่อเป็องค์ ความรู้ให้ คนทั่วไปเข้าใจ และการอำนวยความสะดวกในการจัดการทรัพย์สินทางปริญญาจาก การวิจัย นอกจากนี้ยังต้องการให้พัฒนาระบบ กลไกการบริหารจัดการงานวิจัยขั้นสุดท้ายของการวิจัยในการนําผลงานวิจัยไปตีพิมพ์เผยแพร่ หรือนำไปใช้ประโยชน์หลังเสร็จสิ้นโครงการแล้วมากที่สุด ทั้งนี้ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธั กับความต้องการในการพัฒนาด้านระบบกลไก การบริหารจัดการงานวิจัย คือ ระดับการศึกษามีความสมพันธ์เชิงบวกที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
ปัจจัยด้านประสบการณ์ในการทําวิจัย ที่มีความสัมพันธ์กับความต้องการในการพัฒนาด้านระบบ กลไกการบริหารจัดการงานวิจัย คือ ตําแหน่งทางวิชาการโดยผู้ที่มีตําแหน่งทางวิชาการมความต้องการในการพัฒนาด้านระบบ กลไกการบริหารจัดการงานวิจัยต่ำกว่าผู้ที่ไม่มีตําแหน่งทางวิชาการ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.10 ปัจจัยดั านสภาพการบริหารจัดการงานวิจัย ที่มีความสัมพั นธ์กับความต้องการในการพัฒนาด้านระบบ กลไกการบริหารจัดการงานวิจัย คือ การติดตาม ประเมนผลการปฏิบัติงาน มีความสัมพั นธ์เชิงบวกที่ระดับนัยสําคัญ 0.01 โดยปัญหาและอุปสรรคที่พบมากที่สุดคือเรื่องของเวลา เนื่องจากคณาจารยไม่มีเวลาในการทําวิจัยและมีภาระงานอื่นมาก
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (สถิติประยุกต์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2012