หลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และปัญหาเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล: ศึกษาพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ...
Publisher
Issued Date
2016
Issued Date (B.E.)
2559
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
254 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b198229
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
เสริมพงษ์ รัตนะ (2016). หลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และปัญหาเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล: ศึกษาพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6138.
Title
หลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และปัญหาเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล: ศึกษาพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ...
Alternative Title(s)
Legal principles on liability of the official for wrongful act and the jurisdictional problems : a study of the Act for Liability of the Official for Wrongful Act, B.E. 2539 and the Draft of the Act on Liability of the Official for Wrongful Act B.E …
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของ เจ้าหน้าที่ในระบบกฎหมายไทยเปรียบเทียบกับหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของรัฐในระบบ กฎหมายของเยอรมันและฝรั่งเศส และศึกษาปัญหาเกี่ยวกับเขตอํานาจศาลของพระราชบัญญัติความ รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของ เจ้าหน้าที่ พ.ศ. ... อันจะนําไปสู่การเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องเขตอํานาจศาลในการ พิจารณาคดีความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ วิธีการศึกษาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นการศึกษาเปรียบเทียบหลักกฎหมายว่าด้วยความ รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ในระบบกฎหมายไทยเปรียบเทียบกับหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิด ของรัฐในระบบกฎหมายของเยอรมันและฝรั่งเศส และส่วนที่สอง เป็นการศึกษาปัญหาเขตอํานาจ ศาลของพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และร่างพระราชบัญญัติ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. … พบว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบันพ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีหลักกฎหมายเกี่ยวกับความผิดฐานละเมิดทางแพ่งในระบบกฎหมายเอกชนที่บัญญัติไว้ เป็นลายลักษณ์อักษรเพียงหลักกฎหมายเดียวในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และได้นําหลัก กฎหมายเรื่องละเมิดทางแพ่งมาใช้กับละเมิดทางปกครองในระบบกฎหมายมหาชนในฐานะบท กฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และประเทศไทยใช้ระบบศาลคู่ โดยให้ศาลยุติธรรมมีอํานาจพิจารณาคดี ละเมิดทางแพ่งของเจ้าหน้าที่ซึ่งกระทําละเมิดนอกการปฏิบัติหน้าที่และในการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้ ใช้อํานาจตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประกอบกับพระราชบัญญัติความ รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และศาลปกครองมีอํานาจพิจารณาคดีละเมิดทางปกครอง ของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อํานาจตามกฎหมาย ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบกับ พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ในกรณีที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับเขต อํานาจศาลในคดีความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่มีองค์กรหนึ่ง คือ คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอํานาจหน้าที่ระหว่างศาลใช้อํานาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอํานาจหน้าที่ระหว่าง ศาล พ.ศ. 2542 ทําหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีพิพาทจากการกระทําละเมิดของเจ้าหน้าที่อยู่ในเขต อํานาจของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง และปัจจุบันมีการร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทาง ละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ... เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้มาตรการบังคับทางปกครองที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ซึ่งทําหน้าที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีความเห็นว่า ในระบบกฎหมายไทยไม่มีการกําหนดเรื่องละเมิดทางปกครองไว้โดยเฉพาะ จึงมีเรื่องละเมิดทางแพ่ง และมูลหนี้ทางแพ่งของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ซึ่งมีผลกระทบต่อพัฒนาการของหลักกฎหมายว่าด้วยความ รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และก่อให้เกิดปัญหาเขตอํานาจศาล ดังนั้น ควรดําเนินการดังนี้ 1) แก้ไขพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 โดยนําบรรทัดฐานจากแนว คําวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอํานาจหน้าที่ระหว่างศาลไปกําหนดความรับผิดของ เจ้าหน้าที่ในคดีละเมิดทางแพ่งซึ่งอยู่ในอํานาจของศาลยุติธรรมและคดีละเมิดทางปกครองซึ่งอยู่ใน อํานาจของศาลปกครอง 2) นําบรรทัดฐานจากคําพิพากษาของศาลยุติธรรมและศาลปกครองไป กําหนดแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการฟ้องไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 3) ทบทวนมาตรา 25 แห่งร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ... ในการกําหนดเขตอํานาจ ศาลเกี่ยวกับคดีที่เอกชนร่วมกระทําละเมิดกับเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับแนวคําวินิจฉัยของ คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอํานาจหน้าที่ระหว่างศาลซึ่งวางหลักเกณฑ์ไว้ว่า กรณีมูลความแห่งคดี เดียวกัน จึงชอบที่จะได้พิจารณาที่ศาลเดียวกัน โดยให้อํานาจศาลที่พิจารณาคดีหลักสามารถพิจารณา คดีรองได้ และ 4) ทบทวนมาตรา 21 และมาตรา 26 แห่งร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ... ที่กําหนดว่าการที่หน่วยงานของรัฐใช้สิทธิไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ผู้กระทําละเมิดเป็น เพียงหนังสือเรียกให้ชําระหนี้โดยไม่ถือว่าเป็นคําสั่งทางปกครอง และให้อยู่ในอํานาจศาลยุติธรรมยัง ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง เพราะโดยสภาพคําสั่งดังกล่าวเป็นคําสั่งทางปกครอง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ควร มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอนคําสั่งทางปกครองได้ ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิของ เจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับการคุ้มครองสิทธิของหน่วยงานของรัฐ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559